วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ALPINE เปิดตัว PMD-B100E



ณ ปัจจุบันมือถือiPOD และ Personal Navigation Devices (PND)ได้เข้ามามีบทบาทและอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของโลก โดยเฉพาะวงการรถยนตร์ ALPINE ได้เล็งเห็นถึงความต้องการลูกค้า จึงได้นำIntelligent Transportation Systems(Its)และปรับปรุงระบบรถยนตร์ด้วยการเพิ่ม Electronics ซึ่งในอดีตทั้งระบบเครื่องเสียงในรถยนตร์ และ ระบบ Navigation Systems ต่างทำงานแยกส่วนกัน ไม่สามารถเชื่อมโยงระบบกันได้ ด้วยเหตุนี้ทางAlpine ได้ทำการวิจัยและทดลองมาตลอดจนมาออก PMD-B-100E
PMD-B100E เป็นอุปกรณ์นำทางแบบพกพา โดยการรับสัญญาณดาวเทียมเพื่อหาตำแหน่งที่ท่านอยู่ และสามารถค้นหาที่หมายที่ต้องการไปโดยผ่านจากPMD-B100Eที่มีหน้าจอขนาด 4.3" พร้อมยังสามารถบอกระยะทางว่าประมาณเท่าใดจึงจะถึงและถึงภายในกี่ชั่วโมง โดยคำนวณจากความเร็วของรถ นอกจากนี้ยังสามารถค้นหาสถานที่ที่ต้องการในระยะ 3 กิโลเมตรรอบตัวท่านเช่น ธนาคาร,ปั๊มน้ำมัน,ร้านอาหาร,ที่พัก,หรืออื่นๆ เครื่องนี้ยังสามารถเล่น MP3ได้อีกด้วย ที่สำคัญเหนือทุกยี่ห้อคือระบบ Docking ที่หากในรถใช้เครื่องเสียงของ ALPINE ที่เป็นเครื่องเล่น DVD พร้อมจอภาพระบบสัมผัสหน้าจอ สามารถซื้อสายเชื่อมต่อกับ PMD-B100Eได้ ผลก็คือ หน้าจอแผนที่จะไปแสดงอยู่ที่หน้าจอมอนิเตอร์ในรถยนตร์ท่านแทน การทำงานของเครื่องPMD-B100E มี 2 รูปแบบ คือ ถ้ารถของท่านมีเครื่องเล่น DVDพร้อมหน้าจอ ก็สามารถใช้ระบบ Dockking ได้ และ หากวันไหนเดินทางไปกับผู้อื่นก็สามารถนำ PMD-B100E ร่วมเดินทางใช้แบบปกติทั่วไปได้

สุขภัณฑ์คอตโต้เปิดตัว"COTTO Speed Bathroom"




สุขภัณฑ์คอตโต้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำยอดขายสุขภัณฑ์อันดับ1 ของเมืองไทย เปิดบริการ ‘COTTO Speed Bathroom’ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเพื่อการพลิกโฉมห้องน้ำสู่ความสวยสมบูรณ์แบบ ชู 3 จุดเด่น เร็ว สะอาดปรับแปลี่ยนได้ ลดปัญหายุ่งยากตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ที่ต้องการปรับปรุงห้องน้ำใหม่ให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานตามต้องการ เตรียมทุ่มงบ 30 ล้านบาท เจาะเข้าถึงตัวผู้บริโภคและกลุ่มเป้าหมายโดยตรง
นายธนศักดิ์ สาคริกานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สยามซานิทารีแวร์ อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสุขภัณฑ์คอตโต้ เปิดเผยถึงผลการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน พบว่า แนวโน้มส่วนใหญ่มีความต้องการปรับปรุงห้องน้ำให้มีความสวยงาม ทันสมัย สามารถรองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ อีกทั้งบริการต้องสะดวก รวดเร็ว เนื่องจากไม่ต้องการให้ช่างมาอยู่ที่บ้านเป็นระยะเวลานานเกินไป ซึ่งคอตโต้ในฐานะผู้นำนวัตกรรมสุขภัณฑ์ และก๊อกน้ำที่เล็งเห็นความสำคัญของการบริการด้านห้องน้ำครบวงจร จึงได้พัฒนาเทคโนโลยีล่าสุดของระบบการปรับปรุงห้องน้ำ เรียกว่า COTTO Speed Bathroom ที่สามารถตอบสนองการทำงานปรับปรุงห้องน้ำให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น COTTO Speed Bathroom เป็นระบบการเตรียมงานก่อนการก่อสร้างห้องน้ำ ตั้งแต่ขั้นตอนสอบถามความต้องการของลูกค้า จากนั้นนัดวันเวลาเข้าไปสำรวจพื้นที่จริง เพื่อนำข้อมูลมาทำการออกแบบห้องน้ำใหม่ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เมื่อลูกค้าพอใจในส่วนของการดีไซน์ วัสดุ อุปกรณ์ตกแต่ง และตกลงราคาตามที่ประเมินแล้ว จึงกำหนดวันรับงานที่ชัดเจนและเข้าสู่กระบวนการปรับปรุงห้องน้ำทันที ซึ่งจะช่วยลดเวลาการก่อสร้างที่หน้างาน ทำให้ลูกค้าที่ต้องการปรับปรุงห้องน้ำพบกับความสะดวก สบาย ด้วยคุณสมบัติเด่น 3 ประการสำคัญ คือ งานเสร็จเร็วภายในระยะเวลาและงบประมาณที่กำหนด ลดฝุ่นและเสียงรบกวน สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งสุขภัณฑ์ทุกชนิดในห้องน้ำได้ตามต้องการ สำหรับขั้นตอนการก่อสร้างจะเริ่มจากรื้อถอนสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำเดิมออก ติดตั้งSmart Frame ซึ่งมีความเบา ไม่เป็นสนิม แข็งแรง ประกอบง่ายแทนการก่ออิฐฉาบปูน จากนั้นเดินท่อน้ำดีและน้ำทิ้ง ติดตั้งแผ่น Smart Board ที่มีคุณสมบัติทนน้ำ กันความชื้น แข็งแรงเข้ากับ Smart Frame จากนั้นติดตั้ง Smart Grip ซึ่งถูกออกแบบให้มีระบบล็อคระหว่างแผ่น จึงทำให้การประกอบติดตั้ง สะดวก รวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถติดตั้งทับผนังเดิมได้โดยไม่ต้องรื้อถอน ต่อมาคือการติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆ ตามแบบที่เลือกไว้ สุดท้ายคือขั้นตอนของการทดสอบน้ำ เก็บรายละเอียด ก่อนส่งมอบงานพร้อมใบรับประกัน 6 เดือนนายธนศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมในส่วนของกิจกรรมการตลาดว่า ช่วงแรกได้วางงบประมาณไว้ 25-30 ล้านบาท สำหรับจัดกิจกรรมสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการปรับปรุงห้องน้ำ ตลอดจนสถาปนิกและช่างผู้รับเหมา เพื่อความรู้ ความเข้าใจในเทคโนโลยีระบบการปรับปรุงห้องน้ำใหม่ Cotto Speed Bathroom ผ่านการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายตามหมู่บ้านของกลุ่มเป้าหมาย การออกงานนิทรรศการระดับประเทศ เช่น งานสถาปนิกสยาม งานบ้านและสวน เป็นต้น ตลอดจนการทำแคมเปญโฆษณาในสื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อป้ายบิลบอร์ดและสื่อเอาท์ดอร์ต่าง ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ ยังเพิ่มความสมบูรณ์แบบของระบบ COTTO Speed Bathroom ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Modular Concept ประกอบด้วย Decorative Furniture ชุดเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งห้องน้ำที่ประหยัดทั้งเวลาและงบในการติดตั้ง ฉากกั้นอาบน้ำที่สามารถเลือกรูปแบบหรือเปลี่ยนแปลงการติดตั้งให้เหมาะสมกับความต้องการได้ และ Easy Concept กลุ่มผลิตภัณฑ์ฝารองนั่งและก๊อกน้ำ Cotto Click เน้นความง่ายและสะดวกในการติดตั้ง“ด้วยบริการ COTTO Speed Bathroom จะทำให้การปรับปรุงห้องน้ำกลายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยให้ผู้บริโภคสร้างห้องน้ำในฝันให้เป็นจริง มีฟังก์ชั่นใช้งานตามไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะใช้เป็นพื้นที่ออกกำลังกาย ทำสปา แต่งหน้า แต่งตัว พื้นที่สำหรับการซักล้าง ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดต่อใช้บริการได้ทางwww.cotto.co.th / โทร 0 2521 7777 หรือติดต่อศูนย์ Cotto Bathroom Service ดอนเมือง Cotto Library อโศก และ Cotto Library เชียงใหม่ได้ตามสะดวก” นายธนศักดิ์ กล่าว ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ อุษณีย์ ถาวรกาญจน์ บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด โทร.0 2354 3588 Email : usanee@incom.co.th

วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2551

JAY MART ส่งJfone Paris และ jFone Sydney ลุยตลาดมือถือ


เจมาร์ทเปิดตัว jFone Paris และ jFone Sydney โทรศัพท์มือถือ 2 ซิมสามารถดูทีวีได้ ภายใต้สโลแกน"สนุกกับชีวิตไม่จำเจ"
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเจมาร์ท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ jFone สนุกกับขีวิตไม่จำเจ รุ่น Paris และ Sydney ว่าจะสามารถตอบโจทย์ของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งในแง่ของคุณภาพ ดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน ซึ่งในส่วนของ jFone Paris และ Sydney นั้น จะเน้นในส่วนของรูปแบบ และฟังก์ชั่นพิเศษ เช่น เป็นเครื่องที่สามารถใช้ได้ 2 ซิมในเวลาเดียวกัน สามารถดูทีวีได้ เป็นต้น”นายอดิศักดิ์ กล่าว
การเปิดตัว jFone 2 รุ่น คือรุ่น jFone Paris และ jFone Sydney โดย jFone Paris จะมีจุดเด่นในเรื่องของรูปแบบ ขนาดซึ่งจัดได้ว่าเป็นมือถือ 2 ซิม ดูทีวีได้ ที่มีขนาดเล็กและบางที่สุดในปัจจุบัน โดยมาในตัวเครื่องสีดำเงา ดูคลาสสิก เปรียบเหมือนกับความคลาสสิกของเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส และสำหรับ jFone Sydney นั้นมีจุดเด่นที่ลำโพงขนาดใหญ่ 2 ลำโพง เปรียบเหมือนกับ โรงละครที่ Sydney Opera House ในประเทศออสเตรเลีย
jFone ทั้ง 2 รุ่นจะมีวางจำหน่ายที่ Jay Mart Shop ตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค. 51 เป็นต้นไป เบื้องต้นบริษัทจะเน้นทำการตลาดผ่าน Jay Mart Shop ทุกสาขา และช่องทางการจัดจำหน่ายต่างๆของบริษัท อาทิ เจมาร์ทโฮมเดลิเวอรี่ 1117, เจมาร์ท ออนไลน์ช้อป, ร้านค้าผู้จัดจำหน่ายของเจมาร์ทั่วประเทศ

วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2551

พันธุ์ทิพย์ลดกระหน่ำสินค้าไอที จัดกิจกรรม"PANTIP HOT SALE 2008" ครั้งที่ 3

นาย วิษณุ หวังวิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มศูนย์การค้าฯบริษัท ทิพย์พัฒน อาร์เขต จำกัดกล่าวว่าการจัดกิจกรรมลดราคาสินค้าครั้งที่ 3นี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสาร และอุปกรณ์ไอทีหลากหลาย ภายในงานยังเตรียมกิจกรรมการแสดงผลงาน"ROBOT SOCCER"ของนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมกันนี้ลูกค้ายังสามารถลุ้นรับ โน๊ตบุ๊ค
ฟรี ทุกวัน เมื่อซื้อสินค้าครบ 2000 บาท
กิจกรรมพิเศษ มีดังนี้
1 PANTIP HOT SALE ลุ้นรับ NOTE BOOK ฟรี เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าทุก 2000 บาท รับคูปอง 1 ใบ เพื่อลุ้นรับ NOTE BOOK รวมจำนวน 9 เครื่อง จับรางวัลที่ศูนย์การค้าพันธุ์ พลาซ่า ประตูน้ำ และ ซื้อครบ 20000 บาทรับทันที กระเป๋าลดโลกร้อน
7สี 7แบบ ฟรี 1 ใบ
2 Innnovatioon Fash show By Pantip แฟชั่นโชว์ และ หุ่นยนตร์ที่คว้าแชมป์โลกมาครองในการแข่งขัน "World Robocup 2008" ที่ประเทศจีน
3 e-talk หัวข้อ " IT Brain Gadget" กิจกรรมพิเศษที่จะได้อัพเดท เทรนด์ไอที จากเจ้าของแบรนด์สินค้า อาทิIntel Canon Acer HP Sony ฯลฯ ทุกวันศุกร์ เสาร์ และ อาทิตย์
4 Pantip Colourful For Child ประมูลสินค้าไอที ราคาเริ่มต้นเพียง 1 หรือ 99 บาท รายได้เข้าโครงการ " พันธุ์ทิพย์เพื่อน้อง " โครงการพันธุ์ทิพย์เพื่อน้องจะนำไปช่วยหลือเด็กด้อยโอกาส
สำหรับลูกค้าที่ซื้อผ่านบัตรเครดิตจะได้สิทธิตามแต่ละสถาบันดังนี้
บัตรเครดิต City Bank สิทธิ์ที่ 1 เมื่อใช้จ่ายผ่านระบบแบ่งจ่ายรายเดือน Citibank Paybank ลูกค้าของท่านจะได้ส่วนยกเว้นดอกเบี้ย และหากใช้จ่ายครบ 15000 บาท จะได้รับบัตรกำนัล MK ฟรี และของสมนาคุณจาก Citybank
สิทธิ์ที่ 2 ซื้อทุก2000 บาท รับคูปองเพิ่มอีก 1 ใบ เพื่อลุ้นจับรางวัลดังนี้ รางวัลที่ 1 ตั๋วเครื่องบินไป-กลับกรุงเทพ-มาเก๊า 9 รางวัล(วันละ 1 รางวัล) รางวัลที่ 2 บัตรกำนัลห้องพักโรงแรมWoraburi Ayothaya Convention Resort จ.อยุธยา 9รางวัล (วันละ 1รางวัล) รางวัลที่ 3 กระเป๋าเดินทางPresident Bag 9 รางวัล (วันละ 1 รางวัล)
บัตรเครดิตเคทีซี ซื้อครบทุก 2000 บาท รับคูปองเพิ่ม 1 ใบ(สูงสุดไม่เกิน 10 ใบ) เพื่อลุ้นรับ 1 บัตรรับประทานอาหารS&p มูลค่า1000 บาททุกวัน (วันละ 3 รางวัล) 2 ตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพ-มาเก๊า 2 ที่นั่ง
บัตรเครดิตกสิกรไทย 1 รับทันทีบัตรรับประทานอาหาร S&p ฟรีมูลค่า 300 บาท เมื่อซื้อสินค้าครบ 8000 บาทขึ้นไป
2 รับทันทีบัตรรับประทานอาหาร s&p ฟรีมูลค่า 700 บาท เมื่อซื้อสินค้าครบ 15000 บาท ขึ้นไป
งาน PANTIP HOT SALE 2008 จัดขึ้นระหว่าง 1 - 9 พฤศจิกายน 2551 ทั้งสาขา ประตูน้ำ และงามวงศ์วาน

วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ARROW IS MORE THAN A SHIRT IT ...A WINTER COOOL




แอร์โรว์เริ่มฤดูกาลแห่งลมหนาวของปีนี้ด้วยความสดใสของสีสันจากธรรมชาติให้กับชายหนุ่มและหญิงสาวด้วยคอลเล็คชั่นARROW WINTER 2008 ที่เหล่าดีไซน์เนอร์ได้สร้างสรรค์คอลเล็คชั่นนี้ เน้นการสวมใส่ได้จริงเพื่อตอบสนองกับ3lifestyes คือ1 FIFTH AVENUE ดูดีในวันทำงานกับชิ้นที่สาม ที่สร้างความแตกต่างให้กับคุณด้วยการmix&match เสื้อเชิ้ต กับ vest sweater and jacket 2 YANKEE STADIUM สำหรับ SPORTMAN AND SPORTGIRL ที่ต้องมีกิจกรรมในวันหยุดก็สามารถเลือกหยิบเสื้อโปโล แล้วนำมาmix&matchกับjacketและกางเกงผ้า cotton 3 CENTRAL PARK เพิ่มสีสันและความสดใส ที่ไม่ต้องการความเป็นทางการให้กับตัวคุณ โดยmix&matchกับผ้าพันคอ และหมวก ไหมพรมช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับหนาวนี้พร้อมกันนี้ได้ถือโอกาสจัดงานARROW IS MORE THAN A SHIRT,IT...A WINTER COOOL เพื่อนำเสนอคอลเลคชั่นARROW WINTER 2008 ณ ชั้น 2MEN OF HALL ใจกลางแผนกเครื่องแต่งกายชาย ณ ห้างสรรพสินค้า สยามพารากอน แอร์โรว์ยังสามารถเป็นอะไรให้คุณได้มากกว่าเชิ้ต....หาคำตอบได้ที่เคาน์เตอร์ แอร์โรว์ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ

วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2551

SCIB ขยายโปรโมชั่นสินเชื่อเคหะดอกเบี้ยพิเศษคงที่ปีแรก 1.99% ต่อปี


นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร นครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารขยายโปรโมชั่นพิเศษ “สินเชื่อเคหะนครหลวงไทย” แก่ลูกค้ารายย่อยที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยสำหรับบ้านใหม่ในโครงการที่ธนาคารร่วมสนับสนุนหรือเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือรีไฟแนนซ์ (Refinance) ดอกเบี้ยพิเศษ 2 ทางเลือก ได้แก่ ทางเลือกที่ 1 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 ปี เท่ากับ 1.99% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) ลบ 1.0% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ทางเลือกที่ 2 อัตราดอกเบี้ยลอยตัว ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 4.0% ต่อปี ปีที่ 2 คิดอัตรา MLR ลบ 3.0% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.0% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ส่วนลูกค้าที่ขอกู้ในโครงการทั่วไปหรือบ้านมือสอง ปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่เท่ากับ 3.99% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 0.5% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา วงเงินกู้สูงสุดถึง 95% ของราคาประเมิน ระยะเวลาการกู้สูงสุด 30 ปี

พร้อมกันนี้ลูกค้าสินเชื่อยังสามารถเข้าร่วมโครงการปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระคืนเงินกู้ ต่องวดเหลือ 5,000 บาท ต่อเงินกู้ทุก ๆ 1 ล้านบาท เป็นระยะเวลานานถึง 1 ปี จากปกติที่ลูกค้า สินเชื่อเคหะจะต้องมียอดผ่อนชำระคืนเงินกู้ต่องวดประมาณ 7,000 บาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยกับทางธนาคารอีกด้วย โดยลูกค้าสามารถเลือกรับเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยและเข้าร่วมโครงการดังกล่าวได้ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2551 เท่านั้น
นอกจากนี้ธนาคารจะมอบส่วนลดดอกเบี้ยในปีแรกลงอีก 0.25% จากทุกเงื่อนไขสำหรับลูกค้าที่กู้สินเชื่อเคหะพร้อมทำประกันชีวิตที่คุ้มครองวงเงินกู้ทั้งจำนวนและอายุกรมธรรม์ไม่ต่ำกว่าอายุสัญญาเงินกู้หรือไม่ต่ำกว่า 10 ปีอีกด้วย ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายสินเชื่อเคหะ โทร. 0-2828-8000 หรือสาขาของธนาคารนครหลวงไทยทั้ง 407 แห่งทั่วประเทศ หรือ www.scib.co.th

CASIO G-SHOCK ครบรอบ 25 ปี เปิดตัว G-SHOCK FROGMAN


คุณรังสรรค์ กุลปิยะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์สินค้านาฬิกา บริษัท เซ็นทรัลเทรดดิ้ง กล่าวถึงความเป็นมาของการจัดงาน CASIO G-SHOCK ครบรอบ 25 ปี ในครั้งนี้ว่า ในโอกาสที่ G-SHOCK มีอายุครบรอบ 25 ปี คาสิโอ เฉลิมฉลองความสำเร็จ ด้วยการออกนาฬิกา G-SHOCK รุ่นพิเศษ G-SHOCK FROGMAN รุ่น GW-225E-7DR ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยม โดยได้ออกแบบมาในโทนสีขาว (Colorless Resin) สลับกับสีทองซึ่งมีส่วนประกอบที่เป็นเหล็กทั้งหมดรวมถึงด้านหลังตัวเรือนนาฬิกาที่สลักสัญลักษณ์โลโก้ G–SHOCK 25th ANNIVERSARY ที่ได้รับการออกแบบจากศิลปินกราฟิคระดับโลก Eric Hazeไว้ด้วย พร้อมกันนี้ยังออกรุ่นที่สอง DW-5025B-7DR และรุ่น DW-5725B-7DR โดยเป็นรุ่นที่มีดีไซน์ดั่งเดิมตามแบบในปี ค.ศ.1980 ตัวเรือนสีขาว เลขบอกเวลาสีทองตัดกับพื้นหน้าปัดสีดำดูโดดเด่น และมีโลโก้ครบรอบ 25 ปีด้านหลังตัวเรือนโดยมั่นใจว่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจหนุ่มสาวแฟนคลับ G-SHOCK ทั่วโลก
คุณพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป เป็นประธานในงาน พร้อมด้วยเหล่าคนดังจากแวดวงต่างๆ และศิลปิน-ดาราทั้งหมด 25 คน อาทิ คุณโอ่ง - กงพัฒน์ ศักดาพิทักษ์, คุณจิต สิงห์สมบูรณ์ ดีไซเนอร์จากเกรฮาว์น, คุณศักดิวุฒิ วิเศษมณี จิตรกรชื่อดัง, คุณตุลย์ ไวฑูรเกียรติ ศิลปินจากวง อพาร์ทเมนท์คุณป้า, คุณเป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ ศิลปินจากวง Slur, คุณก้อย - รัชวิน วงศ์วิริยะ, คุณโจอี้บอย, คุณปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล, คุณดิน – หรินทร์ สุธรรมจรัส นักร้องนำวง Tattoo Colour, คุณเมื่อย-ธวัชพนธ์ วงศ์บุญศิริ ศิลปินจากวง Scrubb, คุณตุ้ย-ธีรภัทร สัจจกุล พร้อมเหล่าบรรดา ดีเจจากคลื่น SEED 97.5, คุณแพรวา จิรประวัติ, คุณสายป่าน – อภิญญา สกุลเจริญสุข, คุณแพง – ขวัญข้าว เศวตวิมล, คุณธันย์ชนก ฤทธินาคา, คุณหมูตั้ง – อรรถดิศ ดิศกุล, คุณเต้ - บรม พิจารณ์จิตร, คุณเปรม บุศราคัมวงษ์, คุณพลอย - รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล, คุณเพชร-รัตนารัตน์ เอื้อทวีกุล, คุณจิ๊บบี้ – ตะวัน แซ่ตั้ง ทั้งหมดนี้ได้มาร่วมทดสอบความแข็งแกร่งของนาฬิกา G-SHOCK และร่วมกันมอบนาฬิกาจำนวน 25 เรือนให้แก่ผู้โชคดีที่มาร่วมงาน

ธนาคารทหารไทยจัดโครงการมอบโชค “Your Life Full of Rewards"




นายรามากริชนาน (แรมกี้) สุบรามาเนียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB Bank เปิดเผยว่า ธนาคารได้จัดโครงการ "Your Life Full of Rewards" ขึ้น เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่สมัครทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ ทีเอ็มบี คุ้มค่า 15/8, ทีเอ็มบี คุ้มอนาคต 25/15, ทีเอ็มบี คุ้มครอง 99/8, และประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ทีเอ็มบี คุ้มบ้าน

โดยผู้ที่สมัครทำประกันชีวิตตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนดตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2551 จะได้รับสิทธิลุ้นรับรางวัล รถยนต์ฮอนด้าแจ๊ซ จำนวน 1 รางวัล
รถจักรยานยนต์ Yamaha FINO จำนวน 3 รางวัล
LCD TV Sony ขนาด 32 นิ้ว จำนวน 5 รางวัล
สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 150 รางวัล
และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท สำหรับรางวัลสร้อยคอทองคำนั้น จะเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ลุ้นรับทุกเดือน เดือนละ 50 รางวัล
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารทหารไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ TMB Phone Banking โทร 1558

AIR ASIA ปรับโฉมการให้บริการผู้โดยสารบนเครื่องบินใหม่

เริ่ม 20 ตุลาคม 2551 นี้ไทยแอร์เอเซียเปิดตัวการให้บริการผู้โดยสารบนเครื่องบินใหม่ ได้แก่ บริการนิตยสาร
TRAVEL 3SIXTY เมนูอาหารร้อน เย็น ที่หลากหลาย พร้อมรายการสินค้าของที่ระลึกมากมาย บนเครื่องบิน
นาย ทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินแอร์เอเซียกล่าวว่าการบริการนิตยสาร travel 3sixty
เป็นนิตยสารรายเดือนเชิงท่องเที่ยว เป็นนิตยสารฉบับภาษาอังกฤษ มีความหนา 104 หน้า มีข่าวบันเทิง ตลอดจนแฟชั่น travel 3sixtyยังถือเป็นช่องทางหนึ่งในการประชาสัมพันธ์เส้นทางบินฯ ข้อมูลด้านที่พักทั่วภูมิภาคจาก GO HOLIDAY
นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวบริการใหม่คือ บริการรับประกันความตรงต่อเวลาของเที่ยวบิน (ON TIME GUARANTEE)โดยยินดีมอบบัตรกำนัลมูลค่า 1800 บาทแก่ผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากความล่าช้าของเที่ยวบินฯจากเวลาที่กำหนด

วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2551

บลจ.นครหลวงไทย เสนอขายกองทุนเปิดเอสซีไอ ฟิกซ์เทอม บีดี 6M1/08 ประมาณการผลตอบแทน 3.80% ต่อปี

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เสนอขายกองทุนเปิดเอสซีไอ ฟิกซ์เทอม บีดี 6M1/08 (SCI Fixed Term BD 6M1/08 : SCI FTBD6M1/08) เหมาะสำหรับ
ผู้ลงทุนที่มองหาแหล่งทดแทนเงินฝากระยะสั้น แต่รับความเสี่ยงได้น้อย ประมาณการอัตรารับซื้อคืนอัตโนมัติ 3.80% ต่อปี ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่ลงทุนตราสารหนี้ในประเทศทั้งหมด เช่น ตั๋วแลกเงินที่ออกโดยบริษัทหลักทรัพย์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด และธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด รวมทั้งลงทุนในเงินฝากในธนาคารพาณิชย์ โดยบริษัทเล็งเห็นว่าในขณะนี้นักลงทุนมีความต้องการย้ายเงินลงทุนมาลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำและสภาพคล่องสูงมากขึ้นซึ่งเกิดจากความไม่เชื่อมั่นในการลงทุน อันมาจากปัจจัยการเมืองในประเทศ และสถานการณ์สถาบันการเงินในประเทศสหรัฐอเมริกา

กองทุนเปิดเอสซีไอ ฟิกซ์เทอม บีดี 6M1/08 มีอายุประมาณ 6 เดือน และได้รับเงินต้นพร้อมผลตอบแทนจากการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติครั้งเดียวเมื่อครบกำหนดอายุกองทุน ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในตราสารหนี้ ระยะสั้นในประเทศไทยเท่านั้น ลูกค้าจึงไม่ต้องกังวลเรื่องความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศแต่อย่างใด และลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษีจากกำไรที่ได้รับ จึงถือเสมือนได้รับผลตอบแทนสุทธิประมาณ 3.80% ต่อปี กองทุนมีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ราคา 10 บาทต่อหน่วยลงทุน มูลค่าขั้นต่ำของการลงทุนเพียง 2,000 บาท ซึ่งตั๋วแลกเงินที่ออกโดยบริษัทหลักทรัพย์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด และธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ A, A- และ A- ตามลำดับ นอกจากนี้ ตราสารที่กองทุนลงทุนส่วนใหญ่จะมีอายุคงเหลือใกล้เคียงกับอายุโครงการเพื่อลดความเสี่ยงจากตลาดและสภาพคล่องจากการลงทุนในตราสารประเภทนี้ กองทุนนี้จึงเหมาะสำหรับลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้น้อย และต้องการมีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากประจำ 6 เดือน เปิดเสนอขายครั้งเดียวระหว่าง วันที่ 20 - 27 ตุลาคม 2551 นี้

ผู้สนใจสามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บมจ.ธนาคารนครหลวงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ
โทร. 0-2208-5000 หรือ SCIB Contact Center โทร. 0-2828-8000 หรือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้า บลจ. นครหลวงไทย จำกัด Call Center โทร. 0-2624-8555 หรือ www.sci-asset.com

ZEN The Art of Living 2008 อลังการสุดยอดดีไซน์มาสเตอร์พีช

ห้างสรรพสินค้า เซน และบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน)ร่วมกับพันธมิตรผู้ผลิตของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงศิลปินและดีไซเนอร์ทั่วฟ้าเมืองไทยร่วมกันจัดงาน"เซน ดิ อาร์ต ออฟ ลิฟวิ่ง 2008"(ZEN THEART OF LIVING 2008)รวมสุดยอดของดีไซน์ตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์รวมถึงงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีชจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 500 ชิ้น บนพื้นที่กว่า 6700 ตารางเมตร
พร้อมนิทรรศการศิลปะชุดพิเศษ"ในดวงใจนิรันดร์" เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
นาย อลัน นามชัยศิริ กรรมการผู้จัดการ ห้างสสรรพสินค้า เซน เปิดเผยว่าการจัดงานครั้งนี้เพี่อตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำแฟชั่น ไม่เพียงเสื้อผ้า เครื่องประดับ แต่ยังรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ อีกทั้งเป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการได้ผลิตผลงานที่สรร้างสรรค์และมีคุณภาพ และยังเป็นโอกาสดีสำหรับผู้สะสมงานศิลปเพื่อการลงทุนได้เป็นเจ้าของผลงานสะสมระดับมาสเตอร์พีชที่จัดแสดงภายในงานด้วย เพลินตากับของสะสมของเหล่าเซเลบริตี้ อาทิ เสริมคุณ คุณาวงศ์ อรนภา กฤษฏี สมศักดิ์ ชลาชล งานศิลปะบนโต๊ะอาหารจากศิลปินและนักแสดง อาทิ พัชรศรี เบญจมาศ, พัชฏะ นามปาน,ญาณณี จงวิสุทธ์ , เขมนิจ จามิกรณ์
พบกับงานZEN THE ART OF LIVING 2008 @ เซน อีเวนท์ แกลเลอรี่ ชั้น 8 และแผนกตกแต่งบ้านชั้น 7 ได้ตั้งแต่วันที่ 28ต.ค. - 16 พ.ย. 2551

ซิกน่าประกันภัยเล็งหาพันธมิตร เพิ่มช่องทางปั๊มรายได้



แกรี่ เวนย์ เด็นสัน (Gary Wayne Denson)ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ซิกน่าประกันภัย จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า
กำลังมองหาบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทย เพื่อจะดึงมาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เพราะซิกน่ามีใบอนุญาตดำเนินธุรกิจประกันวินาศภัยเพียงอย่างเดียว จึงต้องการพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อขยายตลาดและเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น โดยจะเข้าไปช่วยขายผลิตภัณฑ์ทั้งประกันชีวิตและประกันภัยผ่านทางโทรศัพท์ รวมถึงช่วยคิดกลยุทธ์การตลาดให้กับพันธมิตรด้วย
สำหรับกลยุทธ์ของบริษัทแบ่งเป็น 6ด้าน
1.การขยายธุรกิจกับคู่ค้าทางธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบันและเพิ่มคู่ค้าทางธุรกิจรายใหม่ๆ
2. การเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายของการตลาดทางตรงให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุด ด้วยการเลือกช่องทางจัดจำหน่ายที่ตรงกับพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละกลุ่มมากที่สุด
3. การสร้างความแตกต่างของบริษัทในด้านผลิตภัณฑ์ประกันภัยและบริการเสริมต่างๆ ให้มีความโดดเด่นจากคู่แข่ง
4. การพัฒนาคอลล์เซ็นเตอร์และเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายประกันภัยทางโทรศัพท์ให้เป็นมืออาชีพตามมาตรฐานสากล
5. การสร้างความแตกต่างด้านการบริหารฐานข้อมูลลูกค้า ด้วยระบบวิเคราะห์และจัดการฐานข้อมูลลูกค้า (Customer Value Management)
6. การพัฒนาบุคลากรให้มีความเป็นเลิศในทุกด้าน
สำหรับกลยุทธ์ธุรกิจในปี 2552 บริษัทจะเริ่มขยายธุรกิจกับคู่ค้าที่มีอยู่ในปัจจุบันและเพิ่มคู่ค้าทางธุรกิจรายใหม่ให้มากกว่า 1 ราย มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 40%ตลอด 3ปีข้างหน้าและเริ่มมีผลกำไรจากการรับประกันในปี 2555 ด้วย

วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2551

SCIB เปิดให้บริการสินเชื่อติดตั้งระบบ NGV


ธนาคารนครหลวงไทยเปิดให้บริการสินเชื่อ “SCIB NGV LOAN” ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่เพียง 5% ต่อปี ผ่อนได้นานสูงสุดถึง 60 เดือน ผู้ขอสินเชื่อสามารถเข้ารับการติดตั้งอุปกรณ์ NGV จากอู่ที่ได้รับรองมาตรฐานกว่า 150 อู่ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2551 ซึ่งธนาคารคาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระ ค่าน้ำมันให้ผู้ใช้รถ รวมทั้งเป็นการขยายฐานลูกค้ารายย่อย


นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร นครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันราคาน้ำมันมีความผันผวนตามสภาวะ เศรษฐกิจโลก และประชาชนให้ความสำคัญกับการหาพลังงานทดแทน ทำให้ผู้ใช้รถยนต์นิยมติดตั้งระบบก๊าซธรรมชาติ NGV (Natural Gas for Vehicles) กันมากขึ้น เนื่องจากมีราคาถูกกว่า ธนาคาร จึงเปิดให้บริการสินเชื่อ “SCIB NGV LOAN” แก่เจ้าของรถยนต์ เพื่อติดตั้งระบบก๊าซธรรมชาติ NGV ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่เพียง 5% ต่อปี วงเงินกู้ ไม่เกิน 100,000 บาท ผ่อนชำระไม่เกิน 36 เดือน ส่วนวงเงินกู้เกิน 100,000 บาท ขึ้นไป ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดถึง 60 เดือน ทั้งนี้คุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อจะต้องเป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี และเมื่อรวมระยะเวลากู้ แล้วไม่เกิน 60 ปี รายได้ขั้นต่ำ 10,000 บาท ขึ้นไป และ อายุรถต้องไม่เกิน 7 ปี โดยนับจากปีที่ จดทะเบียนครั้งแรก เปิดบริการตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2551

“ธนาคารคาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อ “SCIB NGV LOAN” ประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อเป็นการขยายฐานสินเชื่อรายย่อยของธนาคารให้เพิ่มมากขึ้น และเป็นการแบ่งเบาภาระค่าน้ำมันสำหรับผู้ใช้รถยนต์” นายชัยวัฒน์กล่าว

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสมัครใช้บริการสินเชื่อ SCIB NGV LOAN ได้ที่สาขาของธนาคาร นครหลวงไทย หรืออู่ที่ให้บริการติดตั้งอุปกรณ์ NGV ที่ได้รับรองมาตรฐานจากกรมการขนส่งทางบกจำนวนกว่า 150 อู่ทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ SCIB Contact Center โทร. 02-828-8000 หรือ ฝ่ายสินเชื่อบุคคล โทร. 02-220-2642 , 02-220-2903

มูลนิธิโรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ ประเทศไทย เปิดตัวหน่วยบริการ ตรวจสายตาและสุขภาพเคลื่อนที่ “Ronald McDonald Vision Care Mobile"คันแรกในเอเชีย



กรุงเทพฯ- 8 ตุลาคม 2551 – มูลนิธิโรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ ประเทศไทย ร่วมกับมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย ห้างแว่นท็อปเจริญ และโรงพยาบาลพญาไท มอบความห่วงใยให้เด็กไทยทั่วประเทศ เปิดตัวหน่วยบริการตรวจสายตาและสุขภาพเคลื่อนที่ ‘Ronald McDonald Vision Care Mobile’ เป็นคันแรกในเอเชีย และเป็นคันที่ 33 ของโลก หน่วยบริการดังกล่าวจะเดินทางไปตามจังหวัดต่างๆเพื่อตรวจวัดสายตาและตรวจสุขภาพเยาวชนด้อยโอกาสทั่วประเทศฟรี
สำหรับ Ronald McDonald Vision Care Mobile ในประเทศไทยนั้น เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Ronald McDonald Care Mobile ที่มูลนิธิโรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ ได้ดำเนินการในหลายประเทศ ทั้งนี้รถหน่วยบริการอีก 32 คันปฏิบัติงานอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา อาร์เจนตินา เอลซัลวาดอร์ โปแลนด์ และนิวซีแลนด์
นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิโรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “การมีสุขภาพสายตาที่ดีเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้และการดำรงชีวิต เยาวชนที่มีปัญหาด้านการเรียนส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะความผิดปกติทางการมองเห็น อีกทั้งปัญหาด้านสายตาอาจนำไปสู่การเจ็บป่วยอื่นๆ ได้ด้วย แต่ในหลายกรณี เด็กๆ ก็ไม่รู้ตัวว่ามีปัญหาสายตา ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือไม่มีบุคลากรที่เชี่ยวชาญในพื้นที่ จึงไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง”

“มูลนิธิฯ มีความห่วงใยและมุ่งมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือเด็กที่เจ็บป่วยและด้อยโอกาส เพื่อช่วยในการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของเด็กไทย จึงได้ริเริ่มโครงการหน่วยบริการตรวจสายตาและสุขภาพเคลื่อนที่ Ronald McDonald Vision Care Mobile โดยเป็นโครงการที่จัดทำอย่างต่อเนื่องระยะยาว และจะออกให้บริการในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 ถึงเดือนธันวาคม 2556 รวมทั้งสิ้น 94 ครั้ง”
หน่วยบริการตรวจสายตาและสุขภาพเคลื่อนที่ Ronald McDonald Vision Care Mobile ให้บริการตรวจวัดสายตาและประกอบแว่นตา ตรวจการได้ยินของหู พัฒนาการตามวัย รวมถึงให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการดูแลสุขภาพเบื้องต้น โภชนาการที่เหมาะสม และการรักษาสุขอนามัย โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาจากห้างแว่นท็อปเจริญ ทีมแพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลพญาไท พร้อมรถบริการตรวจสายตาที่มีอุปกรณ์ตรวจวัดสายตาด้วยระบบ digital ทันสมัยครบครัน

Ronald McDonald Vision Care Mobile เปิดให้บริการครั้งแรกในวันที่ 8 ตุลาคม 2551 ที่ลานหน้าศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี กรุงเทพฯ โดยมีเยาวชนด้อยโอกาสจากมูลนิธิต่างๆ กว่า 300 คน มารับบริการตรวดวัดสายตาและตรวจสุขภาพ นอกจากนั้นยังมีการจัดบูธเกมส์และกิจกรรมของพันธมิตรผู้สนับสนุนให้น้องๆ ได้ร่วมสนุก พร้อมกันนี้ผู้สนับสนุนหลักอย่าง แมคโดนัลด์ ยังได้ยกขบวนของเล่นหายากจากชุด แฮปปี้มีล มาให้น้องๆ และ แฟนๆ แฮปปี้มีลได้เลือกหาและสะสมอีกด้วย สำหรับรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายจะสมทบทุนเข้ามูลนิธิ โรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ ประเทศไทย หลังจากนั้น Ronald McDonald Vision Care Mobile จะไปให้บริการที่จังหวัดนครพนม หนองบัวลำพู ขอนแก่น มหาสารคาม และจังหวัดอื่นๆ ทั่วทุกภูมิภาคของไทยต่อไป
โครงการดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนจากองค์กรที่เน้นถึงความสำคัญของเยาวชน ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป บริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท มิตซูบิชิ ฟูโซ่ ทรัค (ประเทศไทย) จำกัด ที่จะมาผนึกกำลังเพื่อมอบความห่วงใยให้กับเยาวชนทั่วประเทศ
“นอกจากจะตรวจวัดสายตาและประกอบแว่นให้เด็กๆ แล้ว เรายังหวังให้เด็กๆ มีความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพ และสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น และสามารถพัฒนาศักยภาพของตนต่อไปได้ในอนาคต คาดว่าตลอดโครงการนี้จะสามารถให้บริการแก่เด็กๆ ได้กว่า 30,000 คน” นายวิชากล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะบริจาคเงินเข้าสมทบทุนมูลนิธิ โรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ ประเทศไทย สามารถบริจาคได้ที่กล่องรับบริจาคที่ร้านแมคโดนัลด์ทุกสาขาทั่วประเทศ และบริเวณเคาน์เตอร์จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ณ โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, อีจีวี และ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ทุกสาขา หรือบริจาคผ่านบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ชื่อบัญชี มูลนิธิโรนัลด์มูลนิธิ โรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ (Ronald McDonald House Charities Foundation) หรือ RMHC ถือกำเนิดขึ้น ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2517 ด้วยความร่วมมือระหว่างนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลชื่อดัง, โรงพยาบาลเด็กในเมืองฟิลาเดลเฟีย และแมคโดนัลด์ คอร์ปอเรชั่น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กที่ต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล รวมถึงครอบครัวของเด็กเหล่านั้น ปัจจุบัน มูลนิธิ โรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ ได้จัดตั้งขึ้นใน 52 ประเทศทั่วโลก
สำหรับมูลนิธิ โรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ ประเทศไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่
28 พฤศจิกายน 2544 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การสงเคราะห์เด็กที่เจ็บป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ สนับสนุนการค้นคว้าวิจัยเพื่อพัฒนาการศึกษาของเด็ก รวมทั้งดำเนินการเพื่อสาธารณประโยชน์ หรือให้ความร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆ เพื่อส่งเสริมการศึกษาและวัฒนธรรม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.rmhc.or.th/ แมคโดนัลด์ เฮาส์ หมายเลขบัญชี 101-755155-5

เปิดตัว “วัน-ทู-คอล Zheza Zim”



นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) และ นายฮุย เวง ชอง รองกรรมการ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยเหล่าผู้บริหารร่วมเปิดตัว “วัน ทู คอล Zheza Zim” แนะนำซิมใหม่ล่าสุดเอาใจคนวัยมันส์ ณ พาร์ค พารากอน สยามพารากอน เมื่อวันก่อน

นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า “วัน-ทู-คอล! ทำตลาดกับกลุ่มวัยทีนมาโดยตลอด และจากการได้ใกล้ชิดกับกลุ่มดังกล่าว ทำให้ทราบว่า Lifestyle ของวัยทีนไทยในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีพฤติกรรมการเปิดรับสื่อใหม่ๆ ได้เร็วและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้มากกว่ากลุ่มอื่น เห็นได้ชัดจากเมื่อกระแส Online Community เริ่มแพร่หลายเข้ามาในเมืองไทย ก็จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะจากกลุ่มวัยทีน
ดังนั้นเพื่อให้วัน-ทู-คอล! สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมอยู่ในความเป็นตัวตน สามารถครองใจ และอยู่เคียงข้างวัยรุ่นไทยได้อย่างแท้จริง วัน-ทู-คอล! จึงใช้กลยุทธ์ที่เน้นเจาะตลาด Online Community ของกลุ่มวัยรุ่น โดยจับมือกับ อาร์เอส หนึ่งใน Strategic Partner ที่ดีของวัน-ทู-คอล! มาโดยตลอด ในการพัฒนา “วัน-ทู-คอล! Zheza Zim” ซิมที่รวมแก๊งค์ออนไลน์ ไม่ว่าแก๊งค์ไหน โรงเรียนไหน ให้ติดต่อกันได้ทุกที่ ทุกเวลา ขึ้น เนื่องจากมีแนวคิดและกลุ่มเป้าหมายหลักเดียวกัน คือวัยทีน และมีเว็บไซต์ www.zheza.com ซึ่งเป็นเว็บ Online Community ของกลุ่มวัยทีน ที่ถือเป็นเว็บ Second Life เว็บแรกในเมืองไทย ที่มีสมาชิกมากกว่า 1 ล้านคน
โดยนอกจากลูกค้าซิมดังกล่าวจะได้รับบริการที่อุ่นใจจากเอไอเอสในฐานะลูกค้าคนหนึ่งแล้ว การผนึกกำลังร่วมกับอาร์เอสในครั้งนี้ ยังทำให้ลูกค้าได้รับความพิเศษสุดคุ้มจากแพ็คเกจสิทธิพิเศษมากมาย ได้แก่ อัตราค่าโทรพิเศษนาทีละ 25 สตางค์ ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อโทรหากันภายในแก๊งค์ Zheza , ดาวน์โหลดเพลงของค่ายอาร์เอสยกค่ายได้ฟรีไม่อั้น ทั้งแบบเต็มเพลง ริงโทน มิวสิกวิดีโอ คาราโอเกะ และยังมีกิจกรรมพิเศษๆเฉพาะชาวชีซ่าซิมอีกมากมาย เช่น กิจกรรม Zheza Freedom D-Day เทศกาลความสนุกรูปแบบใหม่ ที่ใช้เพียง Zheza Zim ก็สามารถซื้ออาหาร , เล่นเกมส์ตามบูธต่างๆ รวมถึงความบันเทิงจากคอนเสิร์ตใหญ่ของศิลปินกามิกาเซ่ โดยจะจัดขึ้นบริเวณสยามสแควร์ ซอย 3 ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ , อีกทั้งยังมีกิจกรรม Zheza School Tour Concert 20 โรงเรียนทั่วประเทศ

เทอม 3 "มหัศจรรย์แห่งโน้ตทั้งเจ็ด"



เปิดตัวรายการการ์ตูน Angies สี่สาวแสนซน เทอม 3 "มหัศจรรย์แห่งโน้ตทั้งเจ็ด" ลงจอแน่นอน 16 ต.ค. นี้ 19.45 น. ยังคงคอนเซ็ปต์การ์ตูนดีมีสาระ แนวผจญภัย แฟนตาซี ที่สร้างจากคาแรคเตอร์ 4 พิธีกรชื่อดังผู้หญิงถึงผู้หญิง กาละแมร์, ไก่, ปุ้ย, นิน่า และที่พิเศษคือ เหล่าแขกรับเชิญทั้ง 5 ที่อนุญาตให้นำคาแรคเตอร์มาสร้างเป็นตัวการ์ตูน ต่างได้เผยความรู้สึกที่ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในความมหัศจรรย์สุดหรรษานี้ ไม่ว่าจะเป็น แอน ทองประสม, เอกราช เก่งทุกทาง, พีเค-ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร, โหน่ง-วสันต์ อุตมะโยธิน และตี๋อ้วน-นำชัย จรรยาฐิติกุล

"แอน ทองประสม" กับคาแรคเตอร์ "หญิงแอน" ดาราชื่อกระฉ่อนเมืองแองเจิ้ลทาวน์ ผู้มากับเกล็ดหิมะ "ส่วนตัวรู้สึกดีใจมากเพราะปกติเป็นแฟนประจำการ์ตูนโฟร์แองจี้ มาตั้งแต่เทอมแรก เป็นการ์ตูนดีมีสาระที่น้อง ๆ ทุกคนต้องติดตามดู กับบท "หญิงแอน" ก็จะเป็นดาราเว่อร์ๆ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเปิ่นๆ น่ารักๆ อย่าลืมเป็นกำลังใจให้พี่หญิงแอนด้วยนะคะ"

"เอกราช เก่งทุกทาง" ที่จะมาสร้างความฮาอย่างแรง กับคาแรคเตอร์ "ด.ร.เอ็กซ์" เจ้าของทฤษฎีช่วยหยุดน้ำท่วมโลกแบบ "คิดได้ไงเนี่ย?" "ก็ดีใจที่คาแรคเตอร์เราได้รับความสนใจ ก็บอกกับทีมงานว่าให้ใส่เต็มที่ ไม่ต้องห่วงเรื่องความหล่อ ในเรื่องก็จะมีอะไรสนุกสนานแฝงไว้ด้วยคติสอนใจ โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหาโลกร้อน"

"พีเค-ปิยวัฒน์ เข็มเพชร" กับคาแรคเตอร์ "เคพี" หนุ่มรักต้นไม้ที่ไม่เคยปลูกต้นไม้ได้สำเร็จ "การ์ตูนเรื่องนี้น่ารักครับ วัยรุ่นอย่างเราๆ ลองชมดูนะครับแล้วจะหลงรัก โฟร์แองจี้ส์ สี่สาวแสนซน แบบโงหัวไม่ขึ้นแน่นอน คาแรคเตอร์ ของผมจะขำๆ มีทั้งแบบเป็นคนธรรมดา และมีแปลงร่างเป็นแดร็กคิวล่าด้วย"

"โหน่ง-วสันต์ อุตมะโยธิน" กับคาแรคเตอร์ "แม่มดติ๊งโหน่ง" เปิดปั้มน้ำมันให้คนเติมฟรี ใจดีอย่างไม่น่าเป็นไปได้ "รู้สึกยินดีมาก เราไม่นึกว่าคาแรคเตอร์ของเราจะอยู่ในความสนใจของเด็กๆ พอได้รับการติดต่อก็ตอบรับทันทีไม่ต้องคิด ตัวแม่มดติ๊งโหน่งในการ์ตูนน่ารักมาก สวยเหมือนตัวจริง ก็อยากฝากให้น้องๆ ทุกคนที่อยากเป็นเด็กดี ง่ายนิดเดียว ติดตามดูโฟร์แองจี้ส์ แล้วก็ต้องปฎิบัติตามสิ่งดีๆ ที่ผู้หลักผู้ใหญ่สอนมาจ้ะ"

"ตี๋อ้วน-นำชัย จรรยาฐิติกุล" กับคาแรคเตอร์ "เสี่ยตี๋" มหาเศรษฐีผู้กุมความลับสุดท้ายของโน้ตวิเศษ "โอ้โหอันดับแรกเลย รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นตัวการ์ตูนและมาร่วมงานกับสี่สาวโฟร์แองจี้ส์ ไม่เคยคิดไม่เคยฝัน ว่าคนหน้าตาดีอย่างเราจะเป็นการ์ตูนได้ และทำออกมาได้น่ารักกว่าตัวจริง ในการ์ตูนเสี่ยตี๋จะเป็นผู้ร้าย อย่าไปเอาอย่างเขามาก ดูเอาความสนุกสนานนะครับ..."

ทั้ง 5 คนดังจะมาปรากฎตัวในรูปแบบการ์ตูน แอนิมชั่น 3 มิติ ใน 4 Angies และได้มาลงเสียงพากย์เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมติดตาม สี่สาวโฟร์แองจี้ส์ กับภารกิจตามหาตัวโน้ตวิเศษทั้งเจ็ด และการปรากฏตัวที่แสนจะเฮฮาจากแขกรับเชิญทั้ง 5 ตลอดจนเรียนรู้วิธีที่จะทำให้โลกใบนี้สวยสดใสไปอีกนานแสนนาน ใน 4 Angies สี่สาวแสนซน เทอม 3 "มหัศจรรย์แห่งโน้ตทั้งเจ็ด" ออนแอร์ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 19.45 น. เริ่มตอนแรก 16 ตุลาคมนี้ ทางช่อง 3

วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ฮาเก้น-ดาส เปิดตัว "ช็อคโกแลต แอฟแฟร์"

บริท เอช ดี ดิสทริบิวเตอร์(ประเทศไทย)จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย ไอครีมฮาเก้น-ดาส ประเทศไทย เป็นครั้งแรกของฮาเก้น-ดาส ประเทศไทยที่เปิดตัวแคมแปญ ช็อคโคแลค แอฟแฟร์โดยจัดขึ้นที่ร้านอาเก้น-ดาส สาขาเซ็นทรัลเวิล์ โปรโมทไอครีมช็อคโคแลค,เบลเยี่ยมช็อคโคแลตและ คุ้กกี้แอนด์ช็อคโคแลตพร้อมกิจกรรมให้ทุกท่านสามารถส่งภาพประทับใจช่วงเวลาแห่งความอร่อยกับไอครีมฮาเก้น ดาสทั้ง 3 รสชาติพร้อมคำบรรยายไม่เกิน 50 คำ กิจกรรม ฮาเก้นดาสโฟโต้ คอนเทสต์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ยัวร์ เพลเซอร์
โมเม้นท์สวิท ฮาเก้นดาส มาที่ www.Haagen-DazsPhotoContest.com ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม- 31 ธันวาคม 2551ลุ้นรางวัลกว่า300000 บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้
รางวัลที่ 1 แพคเกจที่พัก คลับเมด คานิ มัลดีฟส์ 4 วัน 3 คืน พร้อมตั๋วเครื่องบิน สำหรับ 2 ท่าน 1 รางวัล
รางวัลที่ 2 แพคเกจที่พัก เชอราตัน กระบี่บีช รีสอร์ท 3 วัน 2 คืน พร้อมตั๋วเครื่องบิน สำหรับ 2 ท่าน 1 รางวัล
รางวัลที่ 3 แพคเกจที่พัก ไฮแอท รีเจนซี่ หัวหิน รีสอร์ท 3 วัน 2 คืน สำหรับ 2 ท่าน จำนวน 1 รางวัล
รางวัลที่ 4 บัตรกำนัลเงินสดจากฮาเก้นดาสมูลค่า 1000 บาท จำนวน 20 รางวัล
รางวัลป๊อปปูล่าโหวต บัตรกำนัลเงินสดฮาเก้นดาส สำหรับทานไอศกรีม ฮาเก้น ดาส 1 ปี จำนวน 1 รางวัล

ซาบิน่าบุกตลาดชุดชั้นในเด็กเปิดตัว"ซาบีนี่ เซพ เดอะ เวิลด์"



นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทซาบิน่า จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า "ซาบินี่"ในคอลเลคชั่นใหม่"เซพ เดอะ เวิลด์"ได้แรงบันดาลใจการออกแบบจาก"กระแสรักษ์สิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน"โดยมี"หนูน้อยซาบินี่"เป็นสื่อผ่าน ลวดลายในกิจกรรมต่างๆที่จะช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติ และลดโลกร้อน โดยจับกลุ่มลูกค้าเด็กผู้หญิง อายุระหว่าง 6-12 ปี
โดย"ซาบินี่ เซฟ เดอะ เวิลด์"ประกอบด้วย เสื้อชั้นในเด็ก เสื้อกล้ามแบบครึ่งตัว กางเกงขาสั้น วางจำหน่ายในราคา 220-240 บาท และกางเกงในบรรจุแพ็ค จำนวน 3 ชิ้นวางจำหน่ายในราคา 270-290 บาท
สำหรับแผนกการตลาดจะใช้งบกว่า 3 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ ผ่านการจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็กผู้หญิงที่มีอายุ 6-12 ปี ส่งภาพถ่ายตัวเองหรือภาพครอบครัวที่แสดงความห่วงใยสังคมอย่างง่ายๆพร้อมคำบรรยายสั้นๆที่เป็นไอเดียในการรักษ์ธรรมชาติ ภายใต้แนวคิด"เด็กรุ่นใหม่หัวใจ SAVE the World โดยสามารถรับใบสมัครได้ที่เคาเตอร์ซาบีน่าทั่วประเทศหรือ ดาวน์โหลดที่ www.sabina.co.th หรือที่ 02-4229430 วันนี้ถึง 31 ตุลาคมนี้ ผู้ที่ผ่านการคัดเลือก 50 คน ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2551 จะได้เข้าร่วมกิจกรรม"Sabinie Camp by Sabina ตอนเด็กรุ่นใหม่ หัวใจ Save the World"
ผู้ที่ส่งภาพเข้าประกวด 100 คนแรกจะได้รับ Sabinie Gift Voucher ใช้เป็นส่วนลด และหากลูกค้าซื้อสินนค้าครบ 1000 บาท หรือสมาชิกซาบิน่า ซื้อครบ 800 บาท จะได้รับหมอนซาบินี่ฟรีอีก 1 ใบ

กระทิงแดงสร้างปรากฏการณ์สุดยอดมหกรรมดนตรี เที่ยงวันยันเที่ยงคืน"KTD THAILAND ROCK FESTIVAL 2008"




โดย คุณ สานิต หวังวิชา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด เตรียมทุ่มงบกว่า 10 ล้าน รวมศิลปิน “ชาวร็อค” ทุกค่าย อาทิ โมเดิร์น ด็อก , สล็อตแมชชีน , ฟลัวร์ , อพาร์ทเม้นต์คุณป้า , อีโบล่า , ฮาเร็ม เบลล์ , ฮอพบิท , ริชแมน ทอยฯลฯ เพื่อมอบความมันส์แบบครบรสให้กับแฟนเพลงทั่งประเทศ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “2 มือ 1 ใจ อะไรก็เป็นไปได้”
โดยเมื่อวันอังคารที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมาได้มีงานแถลงข่าวเปิดตัวงาน มหกรรมคอนเสิร์ตเอาใจวัยโจ๋ ขึ้นที่ลานฟอลัม ชั้น1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด และเริ่มเพิ่มอุณหภูมิความร้อนของงานด้วยขบวนสาวสวยจาก FHM-Girl next door ที่เสิร์ฟกระทิงแดงช็อตให้กับสื่อมวลชนและผู้ร่วมงานถึงที่ทำเอาบรรยากาศในงานคึกคักขึ้นทันตา
พิธีกรสาว คริส หอวัง เปิดตัวงานอย่างเป็นทางการด้วยการเชิญผู้บริหารบริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด คุณ สานิต หวังวิชา ได้ขึ้นมากล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ นอกจากนั้นยังมีศิลปินร็อคที่จะร่วมเดินทางทัวร์คอนเสิร์ตมาร่วมงานอย่างคับคั่ง นำทีมโดย ป๊อด โมเดิร์นด็อก,วง อีโบล่า,สล็อก แมทชีน,อพาร์เมนท์คุณป้า ฯลฯ และปิดท้ายรายการด้วยการเปิดตัวโลโก้ใหม่ของงานมหกรรมคอนเสิร์ตร็อคในครั้งนี้ด้วยความตื่นตาตื่นใจ
เตรียมพบกับศิลปินชาวร็อค จากหลากหลายค่าย ที่จะรวมตัวกันระเบิดความมันส์ ในวันที่ 22พฤศจิกายน 2551ณ จังหวัดขอนแก่น
14 ธันวาคม2551 ณ จังหวัดนครสวรรค์
19 ธันวาคม2551 ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
28 ธันวาคม2551 ณ จังหวัดเชียงใหม่

วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2551

SCIB ให้บริการ "เงินฝากประจำชื่นใจ 4 เดือน" ดอกเบี้ย 4.0% ต่อปี


นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร นครหลวงไทย
จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารเปิดให้บริการ "เงินฝากประจำชื่นใจ 4
เดือน" อัตราดอกเบี้ย 4.0% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยรายเดือนทุกเดือนจนครบกำหนด
วงเงินฝากขั้นต่ำ 5 หมื่นบาท กรณีฝากครั้งต่อไปต้องไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท
และสามารถฝากสูงสุดได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท ต่อบัญชี ต่อรายลูกค้า
โดยผู้ฝากต้องมีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ในสาขาที่อยู่ในเขตสำนักหักบัญชีเดียวกันของเจ้าของบัญชีไว้กับธนาคารเพื่อรองรับการโอนดอกเบี้ย
และเมื่อครบกำหนดระยะเวลาการฝากถือว่าสัญญา "เงินฝากประจำชื่นใจ 4 เดือน"
สิ้นสุดลง ธนาคารจะทำการฝากยอดต้นเงินฝากดังกล่าวต่อเป็นบัญชีเงินฝากประจำ
3 เดือนให้โดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ การให้บริการ "เงินฝากประจำชื่นใจ 4
เดือน" ดังกล่าว
เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าเงินฝากรายย่อยและสอดคล้องนโยบายของธนาคารในการเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำพิเศษที่มีระยะเวลาและอัตราดอกเบี้ยที่จูงใจและให้ผลตอบแทนสูงกับผู้ฝากอย่างต่อเนื่อง
ตลอดจนเพื่อให้สอดคล้องกับการแข่งขันด้านเงินฝากในปัจจุบัน
คาดว่าจะสามารถระดมเงินฝากจากกลุ่มลูกค้ารายย่อยใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 1
หมื่นล้านบาท เปิดให้บริการตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 14 ตุลาคม 2551
เท่านั้น สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด
(มหาชน) กว่า 400 สาขาทั่วประเทศ หรือ SCIB Contact Center โทร.
0-2828-8000 หรือ www.scib.co.th

กระทิงแดง รุกตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ทุ่มงบแคมแปญร่วม 50 ล้านบาท คว้าแบงค์เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้วัยรุ่น วัยร็อกเป็นแบบอย่าง ร่วมสู้ภาวะเศรษฐกิจซบ


กระทิงแดงมาแรง ปลุกตลาดคึกคักรับปลายปี ซัดหมัดเด็ดชู Entertainment Marketing ร่วมบางกอกฟิลม์ ผลิตหนัง “Fire ball” ดึงแบงค์ วงแคลช เป็นพรีเซนเตอร์ บุกตลาดโหมจัดกิจกรรมทั้งหนังใหญ่ และคอนเสิร์ตร็อค ระเบิดความมันทั่วประเทศ สู้ภาวะเศรษฐกิจขาลง มั่นใจยอดเพิ่ม 10 % นายสานิต หวังวิชา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ผู้ดำเนินการด้านตลาด เครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง ได้เปิดเผยถึงการออกแคมเปญโฆษณาชุด “ 2 มือ 1 ใจ อะไรก็เป็นไปได้ ” ซึ่งเป็นแคมเปญชุดใหม่ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ต้องการให้ผู้บริโภคโดยเฉพาะวัยรุ่นเกิดกำลังใจในการดำเนินชีวิต ร่วมสู้ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และกระตุ้นให้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากเครื่องดื่มกระทิงแดง ซึ่งเป็นเจ้าแรกที่พลิกวงการตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง โดยใช้เสียงร้องและเพลงซึ่งแต่งโดยนักร้องวงสตริงชั้นนำแห่งยุค พี่ป้อม อัสนี โชติกุล ประกอบหนังโฆษณาจนเกิดกระแส Music Marketing ประเภทสตริงในตลาด และเป็นเจ้าแรกที่ใช้กลยุทธ์ Tie In และ Product Placement ในภาพยนตร์ไทยด้วยการสนับสนุนหนัง มนต์รักทรานซิสเตอร์ ของผู้กำกับแถวหน้า ต้อม เป็นเอก รัตนเรือง ในปลายปีนี้ทางบริษัทฯ อยากกระตุ้นให้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเกิดสีสัน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจซบเซา โดยได้มีการวางแผนรุกตลาดอีกครั้งโดยใช้กลยุทธ์ Entertainment Marketing เพราะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการนำเบื้องหลังภาพยนตร์ Fire Ball มาผลิตเป็นภาพยนตร์โฆษณา โดยมี แบงค์ วงแคลช จากค่าย GMM GRAMMY ซึ่งเป็นผู้แสดงนำในภาพยนตร์ และเป็น Presenter ในหนังโฆษณา “เหตุที่เลือกแบงค์ วงแคลช จากค่าย GMM GRAMMY มาเป็นพรีเซ็นเตอร์กระทิงแดง เพราะตัวของแบงค์เป็นคนที่มีลักษณะเฉพาะตัว มีทัศนคติมุมมองชีวิตที่เหมาะกับ Brand Personality ของกระทิงแดงคือ เป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม เป็นคนที่มีความพยายามสูง เวลาตั้งใจทำอะไรแล้วจะต้องทำให้ได้ดี จะไม่ละความพยายามหากยังทำไม่สำเร็จ อย่างการแสดงภาพยนตร์เรื่อง Fire Ball นี้ก็เช่นกัน นอกจากนี้แบงค์ยังเป็นขวัญใจของกลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา ” คุณสานิตกล่าว ในการออกแคมเปญครั้งนี้ทางบริษัทฯ จะเริ่มรุกตลาดตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม เป็นต้นไป โดยมีกิจกรรมสื่อสารทางการตลาดทั้ง Above the line และ Below the line ในแนวทาง “ 2 มือ 1 ใจ อะไรก็เป็นไปได้ ” ไมว่าจะเป็นภาพยนตร์โฆษณาทีวี โฆษณาวิทยุ Prited Ad.การจัดกิจกรรม ณ จุดขาย รวมถึงการจัดกิจกรรมคอนเสริ์ต “กระทิงแดงไทยแลนด์ร็อค” ทั่วประเทศ ทั้งนี้ได้รวบรวมเอาบรรดาวงดนตรีร็อก อาทิ วงแคลช อีโบล่า โมเดิร์นด๊อก ฟลัวร์ สล๊อตแมชชีน ฮ๊อบบิท อินเฟมัส อะบิ๊วส์เดอะยูธ คาดว่าจะมีคนเข้าร่วมงานแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 10,000 คน คุณสานิตได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกิจกรรมต่างๆที่วางไว้สำหรับแคมเปญนี้ ใช้ งบประมาณทั้งสิ้นร่วม 50 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถกระตุ้นยอดขาย ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการทำการตลาดในปีนี้จะยังคงเน้นทำการตลาดในเชิงรุก เนื่องจากภาวะการณ์เติบโตของตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในปีที่ผ่านมานั้นมีอัตราการเติบโตไม่สูงมากนักเพิ่มขึ้นประมาณ 1% จากมูลค่าตลาดรวม 15,000 ล้านบาท เพราะการแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมีความรุนแรงมากขึ้น และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากราคาน้ำมันแพงขึ้น วัตถุดิบและปัจจัยต่างๆ ในการผลิตที่ขึ้นราคา ส่งผลให้ทำให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้นในหลายๆ กลุ่ม ทำให้กำลังการซื้อของผู้บริโภคลดลง อย่างไรก็ตาม ในภาวะเศรษฐกิจซบเซาอย่างนี้ ยังเป็นสิ่งที่น่ายินดีว่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ปัจจุบันผู้ประกอบการล้วนยังเป็นคนไทย ซึ่งผิดกับตลาดสินค้าชนิดอื่นที่ส่วนใหญ่ต้องกลายเป็นของต่างชาติ

สร้างปรากฏการณ์ใหม่! เคเอฟซี-แฮปปี้ ออก “ซิมแฮปปี้ปล่อยไก่ by KFC”


นายทอเร่ จอห์นเซ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) และ นายศรัณย์ สมุทรโคจร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยัมเรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมแนะนำ "ซิมแฮปปี้ปล่อยไก่ by KFC" ซิมแฮปปี้ที่มาพร้อมสิทธิพิเศษให้ลูกค้าได้อร่อยฟรีถึง 9 เมนูจากเคเอฟซีใน 1 ปี
ลูกค้าสามารถซื้อ"ซิมแฮปปี้ปล่อยไก่ by KFC ได้ที่ร้านเคเอฟซีทั้งกรุงเทพ และต่างจังหวัด 339 สาขา ในราคา 49 บาท และรับฟรีทันทีไก่ทอดเคเอฟซี 1 ชิ้นเมื่อเปิดใช้บริการ หลังจากนั้นยังได้อร่อยฟรีกับเมมนูหลากหลายในช่วงเวลา 1 ปี โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบช่วงเวลาสิทธิประโยชน์ในเดือนนั้นๆผ่านระบบอัตโนมัติ*1150 (โทรฟรี) หรือที่หน้าร้านเคเอฟซี หรือจากSMSที่แจ้งเมนูและช่วงเวลาล่วงหน้าในแต่ละเดือนให้ลูกค้าทราบ นอกจากนนี้เมื่อซื้อชุดคอมโบ 1 ชุด ลูกค้าจะได้รับเป๊ปซี่ ขนาดปกติ 1 แก้วฟรี และรับค่าโทรแฮปปี้โบนัส 20 บาท เมื่อซื้อเคเอฟซีครบ 200 บาทต่อ 1 ใบเสร็จ(สูงสุด 40 บาทต่อเดือน) อีกทั้งยังได้รับสิทธิโทรฟรี 1150 KFC Deliveryและใช้เสียงเพลงรอสายชีวิตครบรสของเคเอฟซี ฟรีนาน 6 เดือน โดยซิม"แฮปปี้ปล่อยไก่by KFC" มีอัตราค่าโทร 4 ทุ่มถึง 6 โมงเย็นนาทีแรก 2 บาท นาทีต่อไป นาทีละ 50 สตางค์นอกช่วงเวลานาทีละ 2 บาททุกเครือข่ายใช้ได้ถึง 30 กันยายน 2552
สำหรับลูกค้าที่ใช้ซิมแฮปปี้อยู่แล้วสามารถซื้อบัตรลงทะเบียนกินฟรีหนึ่งปีได้ในราคา 39 บาท โดยเมื่อลงทะเบียยนแล้วจะได้รับไก่ทอดเคเอฟซี 1 ชิ้น อร่อยฟรีกับเมนูหลากหลายในช่วงเวลาหนึ่งปี รับฟรีเป๊ปซี่นขนาดปกติ 1 แก้ว เมื่อซื้อชุดคอมโบ ลูกค้ายังสามารถใช้อัตราค่าโทรตามโปรโมชั่นปัจจุบันที่ใช้อยู่

Crocodile (ครอคโคไดล์) เตรียมปั้นแบรนด์ รุกตลาดใหม่ ดึง "ซี-เอมี่" เปิดตัสคอลเลคชั่นหวังขยายไลน์เสื้อผ้าวัยรุ่น

ศูนย์การค้าสยามพารากอน/บริษัท ฉัตรทวีกิจ คอร์เปอเรขั่น จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่าย เครื่องแต่งกายชาย-หญิง ภายใต้แบรนด์ (ครอคโคไดล์) "CROCODILE" ดตรียมรุกตลาดเสื้อผ้าสำหรับวัยรุ่น ไปจนถึงวัยทำงานรุ่นใหม่ พร้อมเปิดตัว Crocodile Autumn/Winter Collection 2008 ซึ่งเป็นการนำเสนองาน Fashion ที่มีความโดดเด่นทันสมัย และมีสีสันสดใส เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ รักความสนุก ชอบค้นหาสิ่งแปลกใหม่ให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา

คุณสมศักดิ์ ฉัตรทวีศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉัตรทวีกิจ คอร์เปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า จากการศึกษาตลาดสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้าในปัจจุบัน กลุ่มผู้บริโภคให้ความสนใจในรายละเอียด และคุณภาพของสินค้า รวมทั้งยังเปิดรับแฟชั่นการแต่งกายมากกว่าอดีต โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่เห็นได้อย่างชัดเจน ส่งผลให้ตลาดมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และในขณะเดียวกันแนวโน้มการแข่งขันของแฟชั่นเครื่องแต่งกายก็มีความรุนแรงสูงขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ในปี 2551 ทางบริษัทได้วางกลยุทธ์สำหรับการแข่งขัน ด้วยการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ Crocodile Autumn/Winter Collection 2008 พร้อมการเดินแฟชั่นโชว์ครั้งแรกในรอบปี ซึ่งมีให้ชมกันถึง 3 เซ็ท ด้วยกัน ประกอบด้วย BUSINESS COLLECTION/CASUAL COLLECTION/TRENDY COLLECTION มีเป้าหมายเป็นคนทุกกลุ่มที่มีรสนิยมในการแต่งตัว อายุประมาณ 20 ปีขึ้นไป โดยปัจจุบันมีจำหน่ายกว่า 60 สาขาทั่วประเทศ

คุณชลิดดา ลักษมีสถาพร (ผู้จัดการฝ่ายการตลาด) บริษัท ฉัตรทวีกิจ คอร์เปอเรชั่น กล่าวว่า ทางบริษัทฯจะสร้างสรรค์แฟชั่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบรับเทรนด์ของเสื้อผ้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ควบคู่การพัฒนาสินค้าโดยมุ่งเน้นนำเสนอสิ่งใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Design ที่โดดเด่นเต็มไปด้วยสีสัน การตัดเย็บที่ประณีตมีคุณภาพ และเทคโนโลยีการทอ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้ามาเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อตอกย้ำภึงคุณภาพของสินค้าในระดับสากล โดยจะเน้นการทำการตลาด ณ เคาท์เตอร์ขาย และขยายสาขาเพิ่มออกไปให้ครอบคลุมทุกพื้นที่

และในช่วงเย็นยังมีแฟชั่นโชว์เปิดตัวเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ Crocodile Autumn/Winter Collection 2008 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบปี จากเหล่านายแบบ-นางแบบ แถมไฮไลท์กับคู่ขวัญคนดัง อย่าง ซี-ศิวัฒน์ และ เอมี่-กลิ่นประทุม ที่จูงมือกันมาโชว์ความสดใสเพื่อกระตุ้นสีสันของซีซันนี้ พร้อมด้วยเหล่าเซเลเบรตี้คับคั่ง อาทิ ต็อบ-ตรีพล,แอนนี่ Project H,ครี พัสวีพิชญ์,คิมเบอร์รี่,โจลิน เป็นต้น ณ บริเวณ Men'Hallชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน