วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

casio เปิดตัวกล้องดิจิตอลพร้อมกันถึง 5 รุ่น


เปิดตัวพร้อมกันถึง 5 รุ่น พร้อมโชว์สุดยอดนวัตกรรม Casio EXILIM Pro Ex-F1 กล้องดิจิตอลความเร็วสูงที่สามารถจับภาพได้เร็วที่สุดในโลก, EXILIM Card EX-S10 กล้องดิจิตอลนำสมัย 10.1 ล้านพิกเซลที่มีขนาดเล็กและบางมากที่สุดในโลก และระบบกดชัตเตอร์อัตโนมัติได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในรุ่น EXILIM Card EX-S10, EXILIM Zoom Ex-Z80, EXILIM Zoom, EX-Z200 และ Z100
บริษัท เจ๊บเซ่น แอนด์ เจ๊สเซ่น มาร์เก็ตติ้ง (ที) จำกัด ได้เปิดตัวกล้องดิจิตอลคาสิโอพร้อมกันถึง 5 รุ่น ได้แก่ Casio EXILIM Pro Ex-F1, EXILIM Card EX-S10, EXILIM Zoom Ex-Z80, EXILIM Zoom EX-Z200 และ Z100 โดยมีกลุ่มผู้บริหาร นำโดย มร.โคอีชิ คาเนดะ ผู้จัดการทั่วไป แผนกกล้องดิจิตอล, มร.คาซูยูกิ คูโรซาว่า ผู้จัดการฝ่ายกล้องดิจิตอล ส่วนพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท คาสิโอ คอมพิวเตอร์ จำกัด และ มร. ฮันซ์ อูลหริค ฮันเซ่น กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาค พร้อมด้วย นายจรัสพงศ์ เจนจรัสสกุล ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายผลิตภัณฑ์ดิจิตอลไลฟ์สไตล์ บริษัท เจ๊บเซ่น แอนด์ เจ๊สเซ่น มาร์เก็ตติ้ง (ที) จำกัด ร่วมเปิดตัว ณ ร้านออเรนเจอรี่ สยามพารากอน
มร.โคอีชิ คาเนดะ ผู้จัดการทั่วไป แผนกกล้องดิจิตอล บริษัท คาสิโอ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ทั้ง 5 รุ่นที่เปิดในวันนี้ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของคาสิโอที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบรับกับความต้องการของโลกอนาคตโดยเฉพาะ โดยเฉพาะรูปลักษณ์ที่บางเฉียบดีไซน์ทันสมัยภายใต้ฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวกและสอดรับกับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคใหม่ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของกล้องในตระกูล EXILIM ของคาสิโอแล้ว ทั้ง 5 รุ่นที่เปิดตัวล่าสุดนี้ ยังมีไฮไลท์ที่โดดเด่นคือ การพัฒนาสู่กล้องดิจิตอลสำหรับโลกอนาคตที่มีฟังก์ชั่นการถ่ายด้วยความเร็วสูงในโลกถึง 60 ภาพ /วินาที รวมถึงฟังก์ชั่นการบันทึกภาพวิดีโอด้วยความเร็วสูงสุดถึง 1200 ภาพ/วินาที ของ Casio EXILIM Pro EX-F1 รวมทั้งการพัฒนาระบบกดชัตเตอร์อัตโนมัติ ถึง 4 แบบ ของกล้อง Casio EXILIM Card EX-S10, EXILIM Zoom Ex-Z80, EXILIM Zoom EX-Z200 และ Z100 อีกทั้งกล้องดิจิตอลในระดับ 10.1 ล้านพิกเซล ที่เล็กและบางมากที่สุดในโลกอย่าง Casio EXILIM Card EX-S10
สำหรับกลยุทธ์การบุกตลาดในภูมิภาคเอเชียของกล้องดิจิตอลคาสิโอนั้น มร. คาเนดะ กล่าวว่า กล้องดิจิตอลคาสิโอมียอดขายทั่วโลกประมาณ 25 ล้านเครื่องในระยะเวลาเพียงแค่ 5 ปี ในภูมิภาคเอเชียถือว่าเป็นตลาดที่สำคัญ และกำลังมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและประเทศไทยนับว่าเป็นตลาดที่มีความสำคัญตลาดหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย ในปีนี้ คาสิโอวางแผนที่จะมุ่งมั่นทำตลาดในประเทศไทย โดยวางเป้าหมายที่จะมีส่วนแบ่งในตลาด 10% นอกจากนั้น คาสิโอยังมุ่งมั่นที่จะทำตลาดและสร้างสีสันให้กับกล้องดิจิตอลในตระกูล EXILIM เพื่อสร้างความต้องการในตลาด และกลุ่มคนรุ่นใหม่ในอนาคต
ทางด้าน มร. คาซูยูกิ คูโรซาว่า ผู้จัดการฝ่ายกล้องดิจิตอล ส่วนพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท คาสิโอ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวถึงจุดเด่นของนวัตกรรมล่าสุดทั้ง 5 รุ่น ว่าไฮไลท์ที่ทั่วโลกให้ความสนใจในขณะนี้คือ Casio EXILIM Pro EX-F1 ที่โดดเด่นด้วยระบบการจับภาพความเร็วสูงซึ่งจากผลสำรวจตลาดกล้องดิจิตอลของคาสิโอระบุว่ากล้องรุ่นนี้เป็นกล้องดิจิตอลความเร็วสูงที่สามารถจับภาพได้เร็วที่สุดในโลก ประกอบด้วยระบบเซนเซอร์ CMOS และระบบประมวลผล LSI ความเร็วสูง โดยภายหลังจากที่ได้มีการติดตั้งระบบการซูมที่มีความละเอียดถึง 6 ล้านพิกเซล และมีกำลังซูมสูงถึง 12 เท่า คาสิโอได้มุ่งมั่นที่จะพัฒนาขีดความสามารถของกล้องให้จับภาพถ่ายได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของกล้องดิจิตอลในยุคปัจจุบัน โดยกล้องดิจิตอลจากคาสิโอรุ่นนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเก็บรายละเอียดของภาพในเสี้ยววินาทีได้รวดเร็วกว่าที่เคยเป็น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพนิ่ง หรือการบันทึกวีดีโออย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจับภาพในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างมั่นใจ หรือแม้แต่ภาพที่ดวงตาของคนไม่สามารถมองเห็นในระดับปกติได้ ด้วยการเลือกระบบถ่ายภาพนิ่ง ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพได้รวดเร็วด้วยระบบการจับความเร็วสูงสุด 60 FPS และในระบบการจับภาพความเร็วสูง จะมีระดับความเร็วในการจับภาพที่แตกต่างกันตั้งแต่ 1 จนถึง 60 FPS ในขณะถ่ายภาพ กล้องดิจิตอลรุ่นนี้สามารถเก็บภาพถ่ายพร้อมกันได้มากถึง 60 รูปจากการถ่ายภาพเพียงครั้งเดียว ดังนั้นผู้ใช้งานจะมีภาพถ่ายที่แตกต่างกันมากถึง 60 รูปต่อวินาที ในระยะการถ่ายรูปเพียงแค่หนึ่งวินาที หรือ 5 รูปต่อวินาทีในระยะเวลา 12 วินาที
นอกจากนั้น ยังมีฟังก์ชั่นพิเศษอีกมากมายเพื่อให้การถ่ายรูปเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น อาทิ ฟังก์ชั่นบันทึกภาพนิ่งด้วยฟังก์ชั่นการจับภาพความเร็วสูง ฟังก์ชั่นภาพถ่ายแบบเคลื่อนไหวช่วยบันทึกช่วงเวลาที่สำคัญแบบเคลื่อนไหวในการถ่ายภาพนิ่ง ฟังก์ชั่นแฟลชความเร็วสูงช่วยให้สามารถถ่ายภาพได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในสถานที่ที่มีแสงไม่เพียงพอ การบันทึกภาพยนตร์ด้วยความเร็วสูงสุด และคมชัดมากที่สุด
นอกจากนั้นอีกรุ่นที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือ Casio EXILIM Card EX-S10 ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกว่าเป็นกล้องดิจิตอลนำสมัยขนาดความละเอียด 10.1 ล้านพิกเซลที่มีขนาดเล็กและบางที่สุดในโลก พร้อมดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย บางเบา และทนทานต่อการใช้งาน พร้อมทั้งยังคงฟังก์ชั่นการใช้งานที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพเหมือนกับรุ่นก่อนๆ อาทิ ความละเอียดสูงของภาพ ฟังก์ชั่นการซูมภาพ หน้าจอแอลซีดี ฟังก์ชั่นต่างๆ ในการถ่ายภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย
สำหรับ Casio EXILIM Zoom EX-Z80 นอกจากจะโดดเด่นด้วยขนาดเล็กกะทัดรัด สะดวกสบายในการพกพาแล้ว ยังพรั่งพร้อมด้วยฟังก์ชั่นที่จำเป็นในการใช้งานเพื่อช่วยให้การถ่ายภาพ และบันทึกภาพยนตร์เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น นอกจากนั้นตัวกล้องยังมีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว ทันสมัย เสมือนกับเป็นอุปกรณ์แฟชั่นที่สามารถพกพาไปได้ในทุกที่ โดยมีสีให้เลือกเป็นเจ้าของมากถึง 6 สีด้วยกัน เช่น สีชมพูอ่อน สีชมพูเข้ม สีเขียว สีฟ้า สีดำ และสีเงิน กล้องดิจิตอลรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ คาสิโอมีความตั้งใจที่จะออกแบบให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพได้ง่าย และสนุกมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบประมวลภาพ EXILIM Engine 2.0 ที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานของเทคโนโลยี ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพได้ในระดับเสียงที่เบากว่า ในขณะที่ใช้ระบบการถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูงถึง 8.1 ล้านพิกเซล นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่นพิเศษอื่นๆ อีก เช่น ความละเอียดภาพสูงถึง 8.1 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยเลนส์ Optical Zoom เพิ่มกำลังซูมขึ้นถึง 3 เท่า ฟังก์ชั่นบันทึกภาพถ่ายจับภาพอัตโนมัติขณะที่มีรอยยิ้ม หรือจับภาพทันทีเมื่อเกิดการสั่นสะเทือนจากมือของผู้ใช้งาน พร้อมทำงานร่วมกับโปรแกรม iTunes-H.264 video ระบบโฟกัสที่ใช้งานง่ายและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น และฟังก์ชั่นการปกป้องใบหน้า (การหาภาพใบหน้าของสมาชิกครอบครัว และโฟกัสภาพ)
สำหรับ 2 รุ่นสุดท้ายคือ Casio EXILIM Zoom EX-Z200 และ EX-Z100 เป็นกล้องดิจิตอลนำสมัยที่มีความละเอียด 10.1 เมกาพิกเซล พร้อมด้วยเลนส์ขนาดกว้าง 28 มิลลิเมตร และ Optical Zoom 4 เท่า ทั้งยังเป็นกล้องดิจิตอลรุ่นแรกของตระกูล EXILIM ที่มีเลนส์ Optical Zoom ที่ให้กำลังซูมมากถึง 4 เท่า ทำให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพในมุมกว้างได้ด้วยความละเอียดภาพสูงถึง 10.1 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยเลนส์ขนาดกว้างถึง 28 มิลลิเมตร (เทียบเท่า) โดยนอกจากฟังก์ชั่นทั่วไปในการถ่ายภาพที่มีอยู่ในตัวกล้องแล้ว กล้องดิจิตอลรุ่นนี้ยังมีระบบค้นหาลักษณะการถ่ายภาพให้เหมาะสมกับโหมดถ่ายภาพ ระบบป้องกันการสั่นไหว (CCD Shift Anti Shake Function) ในรุ่น EX-Z200 จอแอลซีดีสว่างขนาด 2.7 นิ้วให้ประสิทธิภาพสูงในการดูภาพที่มีความแตกต่าง ฟังก์ชั่นบันทึกภาพถ่ายจับภาพอัตโนมัติขณะที่มีรอยยิ้ม หรือจับภาพทันทีเมื่อเกิดการสั่นสะเทือนจากมือของผู้ใช้งาน ระบบ Auto Best Shot วิเคราะห์ลักษณะการถ่ายภาพเพื่อค้นหาโหมดการถ่ายภาพที่เหมาะสม และสามารถทำงานร่วมกับโปรแกรม iTunes-H.264 video
นวัตกรรมล่าสุดจากคาสิโอทั้ง 5 รุ่น ในราคา
Casio EXILIM Card EX-S10 11,990 บาท
Casio EXILIM Zoom EX-Z80 7,500 บาท
Casio EXILIM Zoom EX-Z200 12,990 บาท
และ EX-Z100 9,990 บาท
ร่วมทดสอบนวัตกรรมทั้ง 5 รุ่นได้แล้ววันนี้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร. 02-787-8111 และ www.marketing.jjsea.com

แฮปปี้ เปิดตัวซิม “สุริยัน จันทรา”นาทีละ 50 สตางค์ทุกเครือข่าย



แฮปปี้ เปิดตัวซิม “สุริยัน จันทรา” คู่เหมือนที่แตกต่าง ด้วยแรงบันดาลใจจากร้านชื่อเดียวกันในเชียงใหม่ สร้างเรื่องราวความประทับใจ และจินตนาการ เป็น “Story SIM” ชิ้นแรกของวงการ
จากความประทับใจในร้านเล็ก ๆ แสนโรแมนติกที่ ถ.นิมมานเหมินท์ จ.เชียงใหม่ เรื่องราวของความรัก การอยู่เคียงคู่ และความหมายของคู่ที่อยู่ตรงข้ามกันของชีวิต เป็นแรงบันดาลใจให้แฮปปี้เพิ่มเรื่องราวของคู่เหมือนที่แตกต่าง พร้อมความหมายในมุมมองใหม่ ๆ ลงบนซิมใหม่ “สุริยัน จันทรา” รวมถึงความพิเศษในด้านการตลาดของซิมเบอร์คู่รูปแบบใหม่ที่มีหมายเลขใกล้เคียงกัน ให้ลูกค้าโทรถูกกลางวัน โทรถูกกลางคืน นาทีละ 50 สตางค์ทุกเครือข่าย
นายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น กล่าวว่า ความประทับใจในเรื่องราวที่เล่าผ่านร้านสุริยัน จันทรา จังหวัดเชียงใหม่ ตำนานความแตกต่างของพระอาทิตย์และพระจันทร์ที่อยู่ร่วมฟ้า แต่ไม่ได้เจอกัน เป็นแรงบันดาลใจให้แฮปปี้ผลิตซิมสุริยัน จันทรา ขึ้นมาเป็น Story SIM แรกในวงการโทรคมนาคม โดยใช้เรื่องราวเบื้องหลังค่าโทรและการใช้งานปกติ เป็นมุมมองใหม่ ๆ ให้สื่อสารถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งครั้งนี้เราจับคู่ซิมในรูปแบบใหม่ด้วยโดยจัดซิมเพื่อลูกค้าที่ใช้งานในเวลากลางวันและกลางคืนมาอยู่ในแพ็คเดียวกัน และมีความพิเศษตรงที่ทั้ง 2 หมายเลขจะเป็นหมายเลขใกล้กันหรือคล้ายกัน ลูกค้าสามารถใช้งานได้ในราคาถูกทั้งกลางวันกลางคืน คือค่าโทรนาทีละ 50 สตางค์เมื่อใช้ซิมสุริยันในช่วงกลางวัน และซิมจันทราในช่วงกลางคืน
ดร.เกษชญง สกาวรัตนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มธุรกิจพรีเพด บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น เปิดเผยว่า ซิมสุริยัน จันทรา ยังช่วยลูกค้าแก้ปัญหาความยุ่งยากซับซ้อนในการใช้งานจากโปรโมชั่นที่มีอยู่ทุกวันนี้ โดยเฉพาะเรื่องการให้โทรอัตราถูกเฉพาะในเครือข่าย เพราะลูกค้าส่วนใหญ่มักจะไม่ทราบว่าปลายทางเป็นเครือข่ายใด รวมทั้งโปรโมชั่นที่มีค่าโทรนาทีแรกแพง แต่ผู้ให้บริการมักจะเขียนไว้เป็นหมายเหตุตัวเล็ก ๆ ที่ลูกค้าอาจไม่สังเกตเห็น แต่เราให้ลูกค้าโทรในอัตรานาทีละ 50 สตางค์ทุกเครือข่ายตั้งแต่นาทีแรก ซิมสุริยันมีช่วงเวลาโทรถูกยาวนานถึง 12 ชั่วโมงตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก และซิมจันทรามีค่าโทรถูกตั้งแต่ช่วงพระจันทร์ขึ้นถึงเช้าเป็นเวลา 12 ชั่วโมงเช่นกัน นอกจากจะให้ลูกค้ามีความสุขกับการใช้งานแล้ว ซิมสุริยัน จันทรา ยังสะท้อนความสนุกของแบรนด์แฮปปี้และความภูมิใจของทีมงานที่แก้คำสาปในตำนานรักของพระอาทิตย์และพระจันทร์ให้ได้มาอยู่รวมกัน และแก้คำสาปในวงการเทเลคอมเรื่องความยุ่งยากให้ลูกค้าใช้งานง่ายขึ้นด้วย
ซิมสุริยัน-จันทรา จำหน่ายแพ็คคู่ ประกอบด้วย ซิมสุริยัน อัตราค่าโทรนาทีละ 50 สตางค์ เมื่อโทรในช่วงเวลา 06.00-18.00 น.ทุกเครือข่าย และซิมจันทรา อัตราค่าโทรนาทีละ 50 สตางค์ เมื่อโทรในช่วงเวลา 22.00-10.00 น.ทุกเครือข่าย เมื่อลูกค้าใช้โทรนอกช่วงเวลาคิดค่าบริการในอัตรานาทีละ 2 บาท สิทธิประโยชน์นี้สำหรับลูกค้าที่เปิดใช้บริการตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2551 โดยลูกค้าสามารถใช้สิทธิ์ได้ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2551 ซิมสุริยัน-จันทรา ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 50,000 แพ็ค หรือ 100,000 หมายเลข มีจำหน่ายที่ร้านดีแทคช็อป และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายซิมแฮปปี้ทั่วประเทศ.

วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

Hunsa.comเปิดตัวสื่อรูปแบบใหม่ “hunsa e-zine



นายไอศูรย์ ธีรนิติ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ชินนี่ ดอทคอม ผู้ให้บริการ www.hunsa.com กล่าวว่า “ปัจจุบันตลาดสื่อออนไลน์มีการเติบโตสูง ซึ่งในขณะนี้ ตลาดโฆษณาออนไลน์ มีมูลค่า 130 ล้านบาท ดังจะเห็นได้จากจำนวนเว็บไซด์ที่มีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จำนวนฝ่ายโฆษณาออนไลน์ของเอเยนซี่ที่เพิ่มจำนวนเป็น 60-70%ของเอเยนซี่ทั้งหมดในประเทศ และพฤติกรรมผู้บริโภคเองก็มีการบริโภคข่าวสารความบันเทิงจากสื่อรูปแบบดิจิตอลมากขึ้น กล่าวได้ว่าหากสินค้าที่ต้องการมีภาพลักษณ์ที่ทันสมัยหรือล้ำหน้า เพื่อเจาะไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุตั้งแต่ 16-49 ปี ช่องทางสื่อออนไลน์ซึ่งเข้าถึงผู้บริโภคดังกล่าวได้อย่างชัดเจนเป็นคำตอบที่ดีที่สุด โดยขณะนี้จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศมีอยู่กว่า 13 ล้านคน ดังนั้นในตลาดสื่อออนไลน์ยังมีช่องว่างที่สามารถที่จะทำตลาดได้อีกมาก หากแต่ต้องแตกต่าง และตรงกับความต้องการของผู้บริโภคข่าวสารนั่นเอง”

“ในส่วนของ hunsa e-zine เป็นสื่อรูปแบบใหม่ที่ยังไม่มีเจ้าใดเป็นเจ้าตลาดในเมืองไทย แต่เป็นสื่อที่น่าสนใจ เนื่องจากผู้ลงโฆษณาสามารถพรีเซ็นต์สินค้าในรูปแบบที่น่าสนใจ และบรรจุข้อมูลได้มากกว่าเดิม เพราะสามารถใส่โฆษณาในรูปแบบ VDO ภาพ เสียง ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ยังสามารถโปรโมทเว็บไซด์ของตนเองได้ด้วย เนื่องจากผู้อ่านสามารถคลิกจากแมกกาซีนไปยังเว็บไซด์ของเจ้าของสินค้าได้

ด้วยจากประสบการณ์กว่า 10 ปีของทีมงานหรรษาดอทคอมในวงการสื่อออนไลน์ นอกจากเว็บไซด์hunsa.com ที่เรายังคงความเป็นเว็บไซด์บันเทิงแถวหน้าของเมืองไทย เราเห็นว่าการที่เรามีสื่อในรูปแบบใหม่เพิ่มขึ้นจะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้เรายิ่งขึ้น



ในส่วนของ hunsa e-zine เป็นแมกกาซีนที่ออกเป็นรายเดือน มีจุดแตกต่างอยู่ที่นางแบบหน้าใหม่ เนื้อหาที่น่าสนใจทั้งเกมส์แฟลชทายใจ เรื่องสั้น ความงาม ไอที ที่สำคัญ hunsa e-zine สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากหน้าเว็บไซด์หรรษาดอทคอม หรือ รับฟรีได้จากทีมแจก mini CD ซึ่งทางเราจะทำการเผยแพร่ครั้งแรกในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ นี้ ดังนั้นผู้อ่านจึงสามารถเข้าถึง hunsa e-zine ได้อย่างง่ายดาย และสามารถบันทึกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์เพื่อดูได้แม้ไม่ได้ออนไลน์ก็ตาม นอกจากนี้ hunsa ยังเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ มีความสามารถ กล้าแสดงออกมาเป็นนางแบบขึ้นปกด้วยการมาสมัครได้ที่หน้าเว็บไซด์ hunsa.com

คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2008




คอมมาร์ตฟันธงตลาดไอทีไทยไตรมาสแรกยังไปได้สวย หลังสำรวจพบผู้บริโภคกำเงินอีกกว่า 7,000 ล้าน รอโปรโมชั่นเด็ดในงาน “คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2008” ระหว่างวันที่ 20 - 23 มีนาคม 2551 เวลา 10.00 - 20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่มาพร้อมมุมมองใหม่ “The Simple Technology for Your Life” เปลี่ยนเทคโนโลยีให้ง่ายตามสไตล์คุณ ตื่นตาตื่นใจกับสินค้าราคาสุดคุ้ม และร่วมลุ้นโชครับรางวัลใหญ่รถยนต์ฟรีในงาน
นายปฐม อินทโรดม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ.อาร์ อินฟอร์เมชัน แอนด์ พับลิเคชัน จำกัด ผู้จัดงาน “คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2008” กล่าวว่า “ตลาดไอทีคอนซูเมอร์ ในไตรมาสแรกมีมูลค่าประมาณ 12,000 ล้านบาท ซึ่งจากต้นปีมีการใช้ไปไม่ถึง 5,000 ล้านบาท จากการขายผ่านช่องทางปกติ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ตลาดจะชะลอตัวรองานคอมมาร์ตอยู่แล้ว นั่นเท่ากับว่าเที่ยวนี้จะมีเม็ดเงินในตลาดเหลืออีกกว่า 7,000 ล้านบาท ทำให้ไอทีเวนเดอร์ตั้งความคาดหวังเอาไว้กับงานคอมมาร์ตมากเป็นประวัติการณ์ เชื่อว่ายอดเงินสะพัดในครั้งนี้มีสิทธิ์เกิน 5,000 ล้านแน่นอน ดังนั้นการจัดงานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2008 ในช่วงเดือนมีนาคม ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะเป็นงานแสดงที่มีสินค้าไอทีคุณภาพในราคาสุดคุ้มที่มีให้เลือกหลากหลายครบทุกความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย จะเห็นได้ว่าหากผู้ซื้อมาเดินงานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2008 บนพื้นที่การจัดงานทั้งหมดกว่า 20,000 ตารางเมตร ไม่ว่าจะเป็นโซนไหนจะต้องพบกับกิจกรรมที่น่าสนใจ รวมทั้งโปรโมชั่นสินค้าในราคาสุดคุ้มที่บริษัทผู้ค้าต่างก็พร้อมใจกันมาเปิดตัวเฉพาะในงานนี้เท่านั้น” นายปฐมกล่าว
สำหรับเทคโนโลยีที่จะนำมาแสดงภายในงานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2008 นั้นจะประกอบด้วย เทรนด์เทคโนโลยีล่าสุดทั้งโน้ตบุ๊ค สมาร์ตโฟน พรินเตอร์ กล้องดิจิตอล LCD MP3ฯ ที่เชื่อมต่อทุกมิติชีวิตได้อย่างลงตัว ภายใต้ฟังก์ชันการใช้งานที่ง่ายขึ้น อาทิเช่น เช่น PDA Phone ที่มีระบบ GPS, Kindle หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มความสะดวกสบายให้นักอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา, หุ่นยนต์ไดโนเสาร์ไฮเทค Pleo ที่สามารถตอบสนองการสัมผัสของคนเลี้ยงได้, ฯลฯ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้เพิ่งเปิดตัวในต่างประเทศ และจะนำเข้ามาแสดงให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ชมในงานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2008 เท่านั้น
นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมสร้างสรรค์ที่น่าสนใจมากมาย เช่น Workshop 700 Power Tips : จัดการปัญหาไอทีได้ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง โดยนิตยสาร Computer.Today, ExTreme Workshop : โชว์ความเหนือชั้นกับนวัตกรรมไอที อาทิ Water Cooling ซีพียูที่ระบายความร้อนด้วยน้ำ, เครื่อง โปรเจ็คเตอร์ (Projector) ทำมือ ต้นทุนต่ำ สร้างสรรค์โดยนิตยสาร Commart, Buyer’ Guide Corner : ตรวจสเปก เช็คราคา ซื้อสินค้าไอทีอย่างคุ้มค่า พร้อมให้คำปรึกษาฟรี โดยทีมงานนิตยสาร Commart
และยังมีในส่วนของ Best Buy & Best Price : ช้อปจุใจกับสินค้าคุณภาพ ราคาสุดคุ้ม ที่รับประกันโดยนิตยสาร Commart, Commart Innovation 2008: รางวัลสำหรับนวัตกรรมแห่งโลกไอที จัดโดยนิตยสาร Commart, Auction: ประมูลสินค้าไอทีใหม่แกะกล่องในราคาที่คุณเลือกได้ และพบกิจกรรมมากมายจากนิตยสาร Winmag สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดข้อมูลกิจกรรมหรือโปรโมชั่นสินค้าภายในงานคอมมาร์ตฯ เพิ่มเติมได้ที่ www.commartthailand.com
สำหรับบริษัทไอทีชั้นนำที่เข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนการจัดงานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2008 ครั้งนี้ ได้แก่ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท อไลน์เอนซ์ แอนด์ ลิงค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด และบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
สื่อมวลชนสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
คุณปาริชาติ สุวรรณ์ และคุณบุษกร สนธิกร
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท คอร์ แอนด์ พีค จำกัด
โทร.0-2439-4600 ต่อ 8302, 8202 หรือมือถือ 081-668-9239
อีเมล์ paricharts@corepeak.com

วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

SCIBS Trading Plus


นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
ธนาคารนครหลวงไทยร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) นครหลวงไทย จำกัด
และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดให้บริการ
"SCIBS Trading Plus"
หรือบริการชำระราคาค่าซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านกองทุนตลาดเงิน (Money
Market) โดย บลจ. นครหลวงไทย
จะนำเงินที่ได้รับจากการขายหลักทรัพย์ของลูกค้า บล.นครหลวงไทย
ที่ใช้บริการชำระราคาซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านบัญชีธนาคารอัตโนมัติ (ATS)
ของธนาคารนครหลวงไทย ไปลงทุนในตลาดเงิน
เพื่อสร้างอัตราผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนเพิ่มมากขึ้น
นับเป็นกลุ่มธุรกิจสถาบันการเงินแห่งแรกที่เปิดให้บริการภายหลังจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอนุญาตให้สามารถดำเนินธุรกิจดังกล่าวได้
ซึ่งการให้บริการใหม่นี้ยังเป็นแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนารูปแบบการลงทุนใหม่
ๆ ในตลาดทุนของประเทศ
ตลอดจนเป็นการขยายส่วนแบ่งทางการตลาดทางด้านธุรกิจตลาดทุนของเครือธนาคารนครหลวงไทยอีกทางหนึ่งด้วย
"การให้บริการดังกล่าวนับเป็นการตอกย้ำถึงแนวทางการดำเนินงานของ
เครือธนาคารนครหลวงไทยภายใต้แนวคิด "SCIB Family"
และเป็นรายแรกที่ใช้การผนึกกำลังระหว่างธนาคารและบริษัทในเครือทั้ง 2
แห่ง สร้างสรรค์บริการที่ทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์มากขึ้น"
นายสาธิต วรรณศิลปิน กรรมการผู้จัดการ
สายงานนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า
บริษัทตั้งเป้าที่จะมีนักลงทุนให้ความสนใจเปิดใช้บริการ "SCIBS Trading
Plus" ประมาณ 500 บัญชี
และจะขยายฐานไปยังลูกค้าใหม่ที่ยังไม่ได้ใช้บริการบัญชีชำระค่าซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านบัญชีของธนาคารนครหลวงไทย
นอกจากนี้ การที่ บลจ. นครหลวงไทย
มีบริการเสริมทำให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนที่ดีก็จะเป็นการเอื้อประโยชน์ร่วมกันในการขยายฐานลูกค้าของธนาคารและบริษัทในเครือ
น.ส.อัจฉรา สุทธิศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บลจ. นครหลวงไทย จำกัด
กล่าวว่า ภายหลังจากเปิดให้บริการดังกล่าวจะทำให้มูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารของกองทุนตลาดเงินเพิ่มขึ้นเป็น
5 พันล้านบาท จาก 3 พันล้านบาท
สำหรับแนวโน้มอัตราผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับจากการลงทุนผ่านบริการดังกล่าวนั้น
ในช่วง 3 เดือน ที่ผ่านมา
พบว่าอัตราผลตอบแทนในตลาดเงินอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 2.80% ต่อปี ทั้งนี้
ผู้สมัครใช้บริการ "SCIBS Trading Plus" 200
ท่านแรกยังจะได้รับหมอนพิงหลัง 1 ใบ ทันที

วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

Scib จัดโครงการ ต้นน้ำมืออาชีพ


นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด
(มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารจัดโครงการ "ต้นน้ำมืออาชีพ" หรือ "Modern
Strategic Framework for Executives : MSFE" ซึ่งเป็นหลักสูตรคล้ายกับ
Mini MBAให้ความรู้แก่ลูกค้าของธนาคารที่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
(เอสเอ็มอี) จำนวน 30 ราย เนื้อหาหลักสูตรจะมีทั้งทางด้านทฤษฎี
และการประยุกต์ไปปรับใช้กับการบริหารธุรกิจให้ประสพความสำเร็จในสภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันที่รุนแรงในปัจจุบัน
การอบรมครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ธนาคารจัดให้มีขึ้นเพื่อขอบคุณลูกค้าสินเชื่อ
ซึ่งธนาคารได้รับเกียรติจากรศ.สุปราณี ศรีฉัตราภิมุข
คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เป็นผู้อำนวยการโครงการดังกล่าว
โดยมีคณาจารย์จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งภาครัฐและเอกชน
รวมทั้งกรรมการธนาคารและอดีตกรรมการธนาคาร อาทิ คุณสุรพล ว่องวัฒนโรจน์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สุรพลฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ดร.สถิตย์
ลิ่มพงศ์พันธุ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง
เข้าร่วมบรรยายเพื่อให้ได้รับทั้งความรู้พื้นฐาน
ตลอดจนการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่หลากหลายร่วมกัน
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้คัดเลือกผู้บริหารสายงานธุรกิจ
ผู้จัดการสำนักงานเขตผู้จัดการสาขาของธนาคาร และผู้บริหารบริษัทในเครือ
จำนวน 30 คน เข้าร่วมอบรมในโครงการดังกล่าวด้วย
ซึ่งผู้บริหารเหล่านี้มีหน้าที่ในการให้บริการแก่ลูกค้าอยู่แล้วจะได้มีโอกาสคุ้นเคยกับลูกค้ามากขึ้น
และยังเป็นโอกาสในการรับฟังข้อคิดเห็น ตลอดจนความต้องการของลูกค้า
เพื่อนำมาพัฒนาบริการของธนาคารให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับโครงการ "SCIB Family Mini MBA 2008"
จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 17 พฤษภาคม 2551
หัวข้อการอบรม 9 หมวดวิชา รวม 150 ชั่วโมง ได้แก่
หมวดวิชาเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ หมวดวิชาบัญชีสำหรับการตัดสินใจ
หมวดวิชานโยบายและกลยุทธ์การเงิน หมวดวิชานโยบายและกลยุทธ์ทางการตลาด
หมวดวิชาพฤติกรรมองค์การและการบริหารทั่วไป
หมวดวิชากฎหมายและสภาวะแวดล้อมของธุรกิจ
หมวดวิชาการเป็นผู้ประกอบการและการพัฒนาธุรกิจ
หมวดวิชาการบริหารกลยุทธ์และวิทยาการร่วมสมัย และเกมการจัดการ INTOP GAME

วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

แอปเปิ้ลเปิดตัวแมคบุ๊ค แอร์ โน๊ตบุ๊คบางที่สุดในโลก

แอปเปิ้ลเปิดตัวแมคบุ๊ค แอร์ (MacBook Air) โน๊ตบุ๊คบางเฉียบ เพียง 0.16 นิ้ว ซึ่งนับว่าบางกว่าโน้ตบุ๊คอื่นๆ ที่เคยมีในตลาด MacBook Air มีหน้าจอแบบไวด์สกรีน แอลอีดี (LED) กว้าง 13.3 นิ้ว และคีย์บอร์ดขนาดปกติที่มีไฟ backlit พร้อมกล้องวีดีโอ iSight® แบบ built-in ไว้สำหรับ video conference และ Trackpad แบบมัลติทัช MacBook Air ใช้หน่วยประมวลผลของ Intel Core 2 Duo ขนาด 1.6 GHz. กับ RAM 2 GB ฮาร์ดดิสก์แบบ 1.8 นิ้ว ความจุ 80 GB เทคโนโลยี Wi-Fi 802.11n รุ่นล่าสุด และ Bluetooth 2.1

หน้าจอ LED-backlit 13.3 นิ้วของ MacBook Air เป็นหน้าจอแบบประหยัดพลังงาน พร้อม trackpad แบบมัลติทัช สามารถเลื่อน ย่อ ขยาย ภาพหรือตัวหนังสือ ไปทางใดก็ได้ตามที่สัมผัส ทำให้การปรับองศารูปภาพ หรือการซูมเวปเพจใน Safari™ สะดวกและสนุกกว่าเดิม MacBook Air มีคีย์บอร์ดแบบครบวงจร ดีไซน์เก๋ ผลิตด้วยวัสดุอะลูมิเนียมให้ความทนทาน คีย์บอร์ดขนาดปกติที่มีไฟ backlit ให้แสงจากด้านหลัง เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในที่ๆ ต้องการให้มีแสงน้อย เช่น บนเครื่องบิน สตูดิโอ หรือหอประชุม และตัว built-in ambient light sensor ก็ยังสามารถปรับความสว่างของปุ่มบนคีย์บอร์ดให้พอดีกับแสงที่มีอยู่ในที่ๆ นั้นไ ด้โดยอัตโนมัติ
แอปเปิ้ลยังเปิดตัว ไทม์ แคปซูล อุปกรณ์แบ็คอัพไร้สายที่สามารถแบ็คอัพข้อมูลทุกอย่างบนเครื่องแมคหนึ่งเครื่องหรือหลายเครื่อง โดยที่เครื่องแมคนั้นจะต้องมีระบบปฏิบัติการเลพพาร์ดที่มาพร้อมซอฟท์แวร์สำรองข้อมูลไทม์ แมชชีน ไทม์ แคปซูลประกอบไปด้วยเบส สเตชั่น 802.11n และฮาร์ด ดิสก์ server grade มีให้เลือก 2 ความจุ คือ 500GB ราคา 10,990 บาท และ 1TB ราคา 17,990 บาท

ไทม์แคปซูลสามารถทำงานร่วมกับไทม์แมชชีน ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถแบ็คอัพข้อมูลที่อยู่ในเครื่องแมค ค้นหาและกู้คืนไฟล์ รูป หรือ ไฟล์มัลติมีเดียอื่นที่ถูกลบไปแล้ว หรือกู้คืนซอฟแวร์ที่เคยติดตั้งทั้งหมด ถ้าหากจำเป็น ยังสามารถกู้คืนระบบทั้งระบบได้ผ่านทางการทำงานไร้สายจากไทม์ แคปซูลผ่านไทม์แมชชีนได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

นอกจากนี้ ไทม์ แคปซูลยังเป็น Wi-Fi เบส สเตชั่น ที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุด 802.11n มีประสิทธิภาพในการทำงานดีกว่าเทคโนโลยีเดิมคือ 802.11g ถึง 5 เท่าและครอบคลุมพื้นที่ได้มากกว่าถึง 2 เท่า ไทม์ แคปซูลมาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย power supply ในตัวและการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับ usb printer ไทม์แคปซูลยังช่วยให้สามารถกำหนดการ เชื่อมต่อแบบไร้สายอย่างปลอดภัยกับผู้ใช้ในเครือข่ายไร้สายเดียวกันได้สูงสุดถึง 50 คน และสามารถตั้งข้อกำหนดเพื่อควบคุมการเข้าใช้อินเตอร์เน็ตได้ เช่น การจำกัดการเชื่อมต่อด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ของเด็กๆ

โซนี่ อีริคสัน เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ 3 รุ่นใหม่






) บริษัท โซนี่ อีริคสัน โมบายล์ คอมมูนิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัวโทรศัพท์มือถือ 3 รุ่นใหม่ภายในงาน THAILAND MOBILE EXPO ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมอัดโปรโมชั่นพิเศษ ระหว่างวันที่ 14 – 17 กุมภาพันธ์ 2551 นำโดย วอล์คแมน โฟน (WALKMAN™ PHONE) 2 รุ่น ได้แก่ W380i มือถือเพื่อคนฟังเพลง โดดเด่นด้วย “ระบบ เจสเจอร์ คอนโทรล” (GESTURE CONTROL) ปิดเสียงเรียกเข้า และเสียงปลุกเพียง “มือผ่าน” (ราคา 6,990 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ ม่วงอิเล็กทริค (ELECTRIC PURPLE) และ เทา แม็กเนทิค (MAGNETIC GREY)) และ รุ่น W890i มือถือวอล์คแมน โฟน ดีไซน์สุดหรู บางเฉียบเพียง 9.7 มม. พร้อมลูกเล่น "เซ้นส์ มี” (SensMe™) ด้วยฟังค์ชั่นการเลือกเล่นเพลงตามอารมณ์ พร้อมกล้องดิจิตอล 3.2 ล้านพิกเซล (ราคา 13,900 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ เอสเปรสโซ่ (ESPRESSO BLACK), สีมอคค่า บราวน์ (MOCHA BROWN) และ เงินสปาร์กิ้ง (SPARKING SILVER)) และอีกรุ่นไฮไลท์ ได้แก่ K660i มือถือ เว็บ คอมมูนิเคชั่น (WEB COMMUNICATION PHONE) รับข่าวสาร และบันเทิงออนไลน์ได้ทุกที่ รองรับระบบ 3G พร้อมกล้องดิจิตอล 2 ล้านพิกเซล ซูมได้ถึง 4 เท่า (ราคา 9,900 บาท มีให้เลือก 2 คู่โทนสี ได้แก่ สีขาวแซมเหลืองมะนาว (Lime & White) และ สีดำแซมสีไวน์แดง (Wine on Black))

งานTHAILAND BABY & KIDS BEST BUY 2008

นางสาวขวัญชนก ภควลีธร ผู้อำนวยการประชาสัมพันธ์และฝ่ายขาย บริษัท เอชคอน (ไทยแลนด์)จำกัด ผุ้จัดงานTHAILAND BABY & KIDS BEST BUY 2008 ใช้ช่วงวันแห่งความรักจัดงานขึ้นอีกครั้ง ระหว่างวันที่ 14-17 กุมภาพันธ์
2551 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติศิริกิต์มีร้านค้าเกี่ยวกับสินค้าแม่และเด็ก กว่า 300 แบรนด์เต็มพื้นที่โซนซีของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์
ทั้งนี้บริษัทฯจะมีการจัดกิจกรรมมต่างๆมากมายอาทิ กิจกรรมบนเวที งานสัมมนาต่างๆ การตรวจวัดพัฒนาการสำหรับเด็ก ว่าลูกมีพัฒนาการสมวัยหรือไม่ จุดเปลี่ยนผ้าอ้อมสำหรับลูกน้อย จุดให้นมบุตร และกิจกรรมในบูทต่างๆอีกมากมาย

โครงการครอบครัวคือพลัง

คุณรมิดา รัชเซลล์ มณีเสถียร คุณแม่คนใหม่และผู้อำนวยการฝ่ายบูติคสตรี บมจ.icc INTERNATIONAL
ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าและเครื่องใช้สำหรับเด็กENFANTร่วมกับ COTTON USAจัดกิจกรรมสร้างสรรค์สังคมของการเลี้ยงลูกให้เติบโตเป็นคนด มีคุณธรรม เริ่มปลูกฝังกันตั้งแต่ยังเด็กให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพ เป็นกำลังสำคัญพัฒนาประเทศ
โครงการครอบครัวคือพลัง สร้างสรรค์ลูกให้เป็นคนดี ได้เชิญชวนให้ครอบครัวแบ่งปันวิธีในการเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี โดยเขียนเทคนิควิธีพร้อมส่งภาพเข้าประกวด เพื่อชิงรางวัลทุนการศึกษารวมกว่าแสนบาท โดยมีกติกาดังนี้
ส่งภาพถ่ายครอบครัวและลูกน้อยที่มีอายุตั้งแต่ วัยแรกเกิด-3ปีซึ่งถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือนไม่จำกัดขนาด
พร้อมเขียนบอกเทคนิคการเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี ภายใต้หัวข้อครอบครัวคือพลัง สร้างสรรค์คนดีสู่สังคม ความยาว 5-7 บรรทัด เขียน
ชื่อที่อยู่ ส่งมาที่ เคาเตอร์เสื้อผ้าเด็กENFANTในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป หรือ EMAIL มาที่ enfant@icc.co.th หรือ
ผลิตภัณฑ์ENFANT บมจ.ICC INTERNATIONAL 757/10 ซอยประดู่1 สาธุประดิษฐ์ ยานนาวา กทม.10120
ภาพถ่าย และข้อเขียนเทคนิควิธีการเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี จะคัดเลือกภายในวันที่ 15 ของทุกเดือน ตั้งแต่
เดือนมีนาคม-สิงหาคม 2551 เดือนละ 5 ครอบครัว ตรวจสอบได้ที่www.enfant.co.th
ครอบครัวที่ผ่านการคัดเลือกในรอบแรก จะได้รับบัตรกำนัลเสื้อผ้าเด็ก ENFANT พร้อมได้รับเชิญเข้าร่วมกิจกรรม ครอบครัวคนดี ที่จะจัดขึ้นโดยเฉพาะ และจะทำการคัดเลือกผู้ชนะเลิศ และรองชนะเลิศ ในเดือนตุลาคม 2551 ร่วมเป็น
หนึ่งในโครงการครอบครัวคือพลัง สร้างสรรค์ลูกให้เป็นคนดี ได้ถึงวันที่ 15 สิงหาคมนี้

วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

เงินฝากออมทรัพย์บุฟเฟ่ต์ธ.นครหลวงไทยปี51


นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่เปิดเผยว่า เงินฝากออมทรัพย์บุฟเฟต์ธนาคาร
นครหลวงไทยปี51 มีเงื่อนไขการสมัครเหมือนเดิมคือ บุคคลธรรมดาที่เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ตั้งแต่ 5000บาทขึ้นไปและทำบัตรscib-DCard
จะไ้ด้รับสิทธิประโยชน์พิเศษถึง 4ความคุ้มค่าได้แก่
1.รับกระเป๋า save the earth มูลค่า 250 บาท
2. รับดอกเบี้ยเพิ่ม 0.25ต่อปีจาก0.75เป็น 1
3. ลุ้นรับสร้อยคอทองคำทุกเดือน เดือนละ 100 รางวัล ตลอดปี51 รวม1200รางวัล
4.ล้นรับโชคใหญ๋ทุกไตรมาส ไตรมาสที่1 ลุ้นทองคำแท่งหนัก 25 บาท 1 รางวัลมูลค่า321250 บาท
ไตรมาสที่2ลุ้นทองคำแท่งหนัก 50 บาท 1 รางวัลมูลค่า642500บาท
ไตรมาสที่3ลุ้นทองคำแท่งหนัก 75บาท 1 รางวัลมูลค่า963750บาท
ไตรมาวที่4ลุ้นทองคำแท่งหนัก 100บาท 1 รางวัลมูลค่า1785000บาท
ทั้งนี้ระยะโครงการตั้งแต่ 3 ม.ค2551-31ธ.ค.2551 และผู้ที่รับรางวัลรายเดือนยังมีสิทธิลุ้นรางวัลรายไตรมาสอีกสนใจสอบถามรายระเอียดได้ที่
ธนาคารนครหลวงไทยทุกสาขาทั่วประเทศหรือที่ www.scib.co.th
นอกจากนี้ยังฉลองตรุษจีน ด้วยเงินฝากประจำ 4 เดือน ดอกเบี้ยสูง 3%ต่อปี ระยะรับฝากตั้งแต่ 1กุมภาพันธ์ถึง 25 กุมภาพันธ์ 2551เท่านั้น
สอบถามรายระเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-8288000

วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

กางเกงยีนส์คอลเล็คชั่น adidas Originals Denim by Diesel



สองสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของโลกอย่าง adidas Originals และ Diesel ได้ฤกษ์เปิดตัวสินค้าใหม่ที่ร่วมมือกันทำพร้อมกันทั่วโลก คือ กางเกงยีนส์คอลเล็คชั่น adidas Originals Denim by Diesel ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ใส่ใจในรายละเอียดของขั้นตอนการทำอย่างจริงจัง เลือกใช้ผ้าเดนิมแท้ และตอบโจทย์ลูกค้าที่หลงใหลการใส่ยีนส์ได้เป็นอย่างดี แสดงออกถึงความมีเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างโดดเด่นของทั้งสองแบรนด์คุณคันนัน โกพาลากริชนัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาดิดาส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผมเองมีความตื่นเต้นและดีใจมาก ที่เราสามารถนำคอลเล็คชั่นนี้เข้ามาสู่มือของแฟนๆอาดิดาส ออริจินอลส์ในเมืองไทยพร้อมๆกับบรรดาประเทศแฟชั่นชั้นนำอื่นๆของโลกได้ ซึ่งเราจะวางขายที่ร้านอาดิดาส ออริจินอลส์ 2 ร้านเท่านั้น คือที่ สาขาสยามเซ็นเตอร์ ชั้น 1 และเซ็นทรัลเวิรล์ด ชั้น 1 "หากลูกค้าเดินเข้ามาในร้านเรา เราก็จะสามารถแนะนำสินค้าได้ครบทุกรูปแบบ ตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งหมวก เสื้อ กางเกง และรองเท้า "คุณคันนัน โกพาลากริชนัน กล่าวadidas Originals Denim by Diesel นี้ เป็นผลงานการรังสรรค์ของทั้งสองแบรนด์ดัง ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง adidas Originals และ ทีมครีเอทีฟของ Diesel ตลอดช่วง 4 ปีที่ทำงานร่วมกัน โดยอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของวิลเบิร์ท แดส หัวหน้าทีมครีเอทีฟ สร้างสรรค์กางเกงยีนส์คอลเล็คชั่นพิเศษ สำหรับร้านอาดิดาส ออริจินอลส์เท่านั้น ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 9,900 บาท ไปจนถึง 15,900 บาท มีทั้งหมด 10 รุ่นแตกต่างกัน แบ่งเป็นชาย 6 แบบ และหญิง 4 แบบ ซึ่งเป็นคอลเล็คชั่นพิเศษที่มีจำนวนจำกัดสำหรับช่วงเปิดตัวในประเทศไทย คอนเซ็ปท์พิเศษของแคมเปญนี้ คือ ตัวเลข 83 ซึ่งเป็นเรื่องของ 83 วิธีในการฆ่าเวลาของคุณให้ได้ผล “83 original ways to successfully waste your time” เป็นแนวคิดสนุกๆ เพื่อให้ทุกคนได้เปิดใจ แสดงออกอย่างไม่ต้องอายใคร และแสดงความเป็นตัวเองของคุณ เราใช้ 83 วิธีนี้ในการเชิญชวนให้ทุกคนได้ร่วมแสดงความคิดในร้าน ออริจินอลส์ ของเรา รวมถึงทางเว็บไซท์ และในงานนี้การเปิดใจเป็นเรื่องของการปลดปล่อย