วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2551

ธนาคารนครหลวงไทยรับชำระภาษีทางอินเทอร์เน็ต


นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดโครงการ “รับชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบอินเทอร์เน็ต” โดยมี นายสุทธิพงศ์ อิทธิพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) และนายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมธนาคารพาณิชย์ 9 แห่ง ร่วมในพิธี เพื่อให้บริการรับชำระภาษีรถผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยหักบัญชีเงินฝากธนาคาร หรือบัตรเครดิต ซึ่งโครงการนี้จะเริ่มให้บริการ วันที่ 1 เมษายน 2551 เป็นต้นไป

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)



บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด สืบสานความเป็นผู้นำแห่งวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยการนำขบวนยนตรกรรมระดับหรูทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถเพื่อการพาณิชย์รวมทั้งสิ้น 17 คัน พร้อมด้วยเอ็กซ์ซิบิชั่นแสดงเทคโนโลยี มาโชว์บนพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุด พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษคุ้มค่าแห่งการรอคอยสำหรับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2551 นี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา
สำหรับธีมหรือใจความสำคัญของงานที่ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์นำมาใช้ในปีนี้ คือ “Road to the Future” รถยนต์ทุกคันที่นำมาโชว์ในปีนี้นั้นล้วนแล้วแต่เป็นรุ่นล่าสุดของปี 2008 ทั้งสิ้นเทียบเท่างานแสดงระดับโลกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดเอ็กซ์ซิบิชั่นพิเศษแสดงเรื่องราวของเทคโนโลยีต่างๆ ของเมอร์เซเดส–เบนซ์ รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซล CDI รุ่นใหม่ล่าสุด และโชว์ระบบช่วงล่าง agility package ที่ติดตั้งอยู่ในรุ่น C-Class โฉมใหม่ที่คุณจะต้องทึ่งในความล้ำสมัย
มร. โวลฟ์กัง ฮุบเพ็นบาวเออร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ในปีนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้มีการจัดเตรียมพื้นที่สำหรับแสดงรถในงานมอเตอร์โชว์ไว้อย่างยิ่งใหญ่ บนพื้นที่ของบูธรวมทั้งสิ้น 1,620 ตรม. ภายใต้แนวคิด “Road to the Future” ซึ่งไม่เพียงแค่นำเอายนตรกรรมที่มีความโดดเด่น และเป็นรุ่นล่าสุดมาจัดแสดงเท่านั้น แต่ยังได้นำเอาเรื่องราวของเทคโนโลยีต่างๆ การออกแบบ และที่ขาดไม่ได้คือเรื่องความปลอดภัยของเมอร์เซเดส-เบนซ์มาโชว์ด้วยเช่นกัน”
“หลักๆ แล้วจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยีล่าสุดที่มีอยู่ในรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่นต่างๆ ซึ่งทางบริษัทฯเองต้องการนำเสนอสู่ท้องตลาดในปีนี้ โดยถือเป็นการรวบรวมเอาเทคโนโลยีที่สร้างชื่อเสียงให้กับเมอร์เซเดส-เบนซ์ มาให้ผู้ที่เข้ามาชมงานได้ชมและสัมผัสมอย่างใกล้ชิด อาทิ เรื่องของระบบความปลอดภัย รวมถึงเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบาย”
ไฮไล้ท์พิเศษเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 10 ปีของบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ในปีนี้ คือการเปิดตัวสุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตโรดสเตอร์พวงมาลัยขวารุ่นล่าสุดเป็นครั้งแรกของโลกถึง 2 รุ่นซ้อน คือ The new generation SL 350 และ The new generation SLK 200 เพื่อให้ชาวไทยได้ยลโฉมพร้อมกันกับเวทีงานมอเตอร์โชว์ใหญ่ๆ ระดับโลก นอกจากนี้ยังเปิดตัวอ๊อฟโรดรุ่นใหม่อีดิชั่นพิเศษล่าสุด ML 280 CDI Edition 10 สำหรับท่านลูกค้าที่ชื่นชอบรถยนต์ในสไตล์ SUV ระดับพรีเมียม และที่พิเศษสุดตามคำเรียกร้องของท่านลูกค้าระดับไฮเอ็นด์ นั่นคือการกลับมาของยนตรกรรมระดับเฟิสท์คลาสของ S 320 CDI
สำหรับ The new generation SL 350 นั้น ทางวิศวกรของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เองได้พัฒนาเครื่องยนต์จาก V6 เดิมซึ่งให้อารมณ์การขับขี่ที่เป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้นโดยมีพละกำลังเพิ่มขึ้นอีก 16 เปอร์เซ็นต์ หรือ 232 กิโลวัตต์/315 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที เพิ่มแรงบิดอีก 10 นิวตันเมตร เป็น 360 นิวตันเมตร ทำให้ The new generation SL 350 สามารถทำเวลาจาก 0 ถึง100 ในเวลาเพียงแค่ 6.2 วินาทีเท่านั้น ซึ่งเร็วกว่ารุ่นเดิม 0.4 วินาที โดยมีราคาอยู่ที่ 11.79 ล้านบาท
ในส่วนของ The new generation SLK 200 K ซึ่งได้รับการกล่าวขวัญในเรื่องของการออกแบบที่โดดเด่นของยนตรกรรมสไตล์สปอร์ต 2 ที่นั่ง มาครั้งนี้ได้ถูกพัฒนาให้ดึงดูดสายตามากขึ้นด้วยกันชนด้านหน้าดีไซน์ใหม่ โดยเน้นความเป็น V-shape ขณะที่ยังคงไว้ซึ่งความโดดเด่นของสัญลักษณ์ดาวสามแฉกบริเวณกระจังด้านหน้า ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ที่สามารถรีดกำลังออกมาได้ถึง 135 กิโลวัตต์/184 แรงม้า ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนถึง 15 กิโลวัตต์ นอกจากนี้ ยังให้แรงบิดเพิ่มขึ้นอีกจาก 240 เป็น 250 นิวตันเมตร ระหว่าง 2,800 ถึง 5,000 รอบต่อนาที ทำให้ SLK 200 K ใหม่นี้สามารถทำเวลาจาก 0 ถึง100 ได้ในเวลาเพียงแค่ 7.9 วินาที โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 232 กิโลเมตร/ชม. สนนราคารถรุ่นนี้จะอยู่ที่ 4.5 ล้านบาท
ในส่วนของรถยอดนิยมอย่าง The new C-Class โฉมใหม่ตั้งแต่แนะนำตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วคือ C 200 AVANTGARDE และ C 200 ELEGANCE ก็ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง ด้วยองค์ประกอบที่ลงตัว อาทิ รูปลักษณ์ภายนอกที่ใหม่ตั้งแต่หัวจรดท้าย ระบบความปลอดภัย PRE-SAFE® และระบบช่วงล่างแบบ AGLITY CONTROL ที่ทำให้ The new C-Class มีความนุ่มนวลสะดวกสบาย และคล่องแคล่วปราดเปรียวมากขึ้น บวกกับการได้รับรองจากหน่วยงาน Euro NCAP ให้เป็นรถยนต์ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในรถยนต์ระดับเดียวกันโดยสามารถทำคะแนนสูงสุดถึงระดับ 5 ดาว
เพื่อให้เป็นทางเลือกมากขึ้นสำหรับท่านลูกค้า ทางบริษัทฯ จึงได้นำรุ่น C 230 2.5 AVANTGARDE ที่มาพร้อมขุมพลังแบบ 6 สูบ 24 วาล์ว 2,496 ซีซี. ให้แรงม้าสูงสุด 204 แรงม้าที่ 6,100 รอบต่อนาที แรงบิด 245 นิวตันเมตรที่ 2,900 – 5,500 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ยนอกเมืองอยู่ที่ 6.8-7.0 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร สำหรับราคาเปิดตัวนั้นอยู่ที่ 3,499,000 บาท
ในส่วนของ E-Class นั้นได้นำมาแสดงในงานถึง 5 รุ่นด้วยกัน ตั้งแต่ E 200 K, E 230 2.5, E 220 CDI, E 280 3.0 และ E 200 NGT ที่สามารถใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แถมพกด้วยแคมเปญพิเศษสุดๆแห่งปีสำหรับ E-Class ด้วยดอกเบี้ย 0% ตลอดอายุสัญญาสำหรับรุ่น E 200 KOMPRESSOR ELEGANCE, E 220 CDI AVANTGARDE, E 230 2.5 AVANTGARDE, และ E 280 3.0 AVANTGARDE Sports พร้อมประกันภัยชั้น 1 ฟรี 2 ปีกรณีซื้อด้วยเงินสด และรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 หรือ 60,000 บาทพิเศษเฉพาะผู้ซื้อรถรุ่น E 280 3.0 AVANTGARDE
ในส่วนรถยนต์นั่งเพื่อการพาณิชย์ บริษัทฯได้นำรถตู้แวน Vito รุ่น Extra Long Wheelbase ซึ่งมีความพิเศษตรงที่มีความยาวถึง 5,223 มม. ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง หรูหราและสะดวกสบายเหมาะทั้งใช้งานธุรกิจ และครอบครัว นอกเหนือจากอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยต่างๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์แล้วยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ อาทิ ประตูบานเลื่อนไฟฟ้า ซ้าย-ขวา (electric sliding door) ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Parktronic) และระบบระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) เป็นต้น Vito 115 CDI มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2,148 ซีซี 150 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 2,650,000 บาท
สำหรับท่านที่ต้องการร่วมเป็นสมาชิกบัตรเครดิต MercedesCard ภายในงาน จะได้รับสิทธิยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปี 3 ปีแรกพร้อมชุดของที่ระลึกและสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมายที่คัดสรรเพื่อท่านโดยเฉพาะ
และพลาดไม่ได้สำหรับบรรดานักสะสมคอลเล็คชันเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้บริษัทฯได้คัดสรรของสะสมที่ออกแบบและผลิตโดยใช้วัสดุคุณภาพไม่ว่าจะเป็นชุดเสื้อผ้า นาฬิกาสำหรับผู้บริหาร พวงกุญแจ รถโมเดลรุ่น C-Class, CL-Class และรถคลาสสิก เป็นต้น ไฮไล้ท์พิเศษสำหรับนักสะสมรถโมเดล บริษัทฯ มีความยินดีขอนำเสนอชุดรถโมเดล CLK DTM AMG Coupé และ Cabriolet ขนาด 1:43 ซึ่งมีจำหน่ายในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้เพียง 6 ชุดเท่านั้นจากจำนวนการผลิตเพียง 1,000 ชุดทั่วโลก
พบกับขบวนสุดยอดยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดรวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ อันล้ำสมัยของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่แนล มอเตอร์โชว์ 2008

บางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2008


บางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2008 ปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 29 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “นวัตกรรมยานยนต์ คน และธรรมชาติ หรือ The Environment Auto Globalization ซึ่งเน้นพลังงานทางเลือกหรือเทคโนโลยีด้านอื่น ๆ โดยมีกำหนดจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 28 มีนาคม ถึง 6 เมษายน ณ ศูนย์นิทรรศการ ไบเทค บางนา

ส่วนค่ายรถเข้าร่วมงานทั้งหมด 27 ยี่ห้อ และมีบริษัทรถยนต์รายใหม่ ๆ ที่มาเปิดตลาดในไทยเข้าร่วมงานด้วย อาทิ ทาทา ค่ายรถยนต์จากประเทศอินเดีย

รถใหม่ที่ใช้เวทีนี้เปิดตัวมีอะไรบ้าง

รถใหม่ที่จะเปิดตัวในงานประกอบด้วย ฮอนด้า แจ๊ซใหม่ ,มิตซูบิชิ ปาเจโร ,รถปิกอัพ ทาทา ซีนอน และ นาซ่า รถเก๋งใหม่จากมาเลเซีย ของค่ายยนตรกิจกรุ๊ป นอกจากนี้ค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการนำสุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตโรดสเตอร์พวงมาลัยขวารุ่นล่าสุดมาเปิดตัวครั้งแรกของโลกถึง 2 รุ่น คือ SL 350 และ SLK 200 นอกเหนือจากรุ่นออฟโรดใหม่อย่าง ML 280 CDI Edition 10 , S320 CDI และ C 230 2.5 AVANTGARDE ส่วนบีเอ็มดับเบิลยูก็นำรถกันกระสุนมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท มาร่วมแสดง

ส่วนรถคอนเซ็ปต์คาร์ ปีนี้มีหลากลาย อาทิ มิตซูบิชิ EZ MIEV รถพลังานไฟฟ้า ,ฟอร์ด นำ เวิร์ฟ แบบ 4 ประตูมาโชว์ , นิสสัน Intima, วอลโว่ C30 รีชาร์จ คอนเซ็ปต์ เป็นต้น

วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2551

NEW HONDA JAZZ




บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถยนต์ร้อนแรงแห่งปี “ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่” เจเนอเรชั่นที่ 2 ของรถแฮทช์แบ็ค 5 ประตูซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง และเพิ่งคว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2550 – 2551 ในประเทศญี่ปุ่นมามาดๆ ด้วยลูกเล่นที่เพิ่มขึ้นและรองรับพลังงานทางเลือกใหม่ แก๊สโซฮอล์ E20 เคาะราคาเร้าใจเริ่มต้น 5.5 แสนบาท-6.95 แสนบาท
นายเคนจิ โอตะกะ ประธาน บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "รถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ มีรูปลักษณ์ที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่และคนหัวใจหนุ่มสาว เพราะมีความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ให้การขับขี่สนุกสนาน ทั้งยังดึงดูดความสนใจของลูกค้าที่มีความเป็นวัยรุ่นและผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อรถยนต์ซึ่งสามารถใช้ได้กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ประหยัดน้ำมันและอยู่ในราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาดเดียวคือ 1.5 ลิตร i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้า ซึ่งสามารถใช้กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ได้และมีค่ามลพิษในไอเสียต่ำเทียบเท่ามาตรฐานยูโร 4 ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น S รุ่น V และรุ่นสูงสุด SV โดยแต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันเพื่อให้ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของลูกค้า

วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2551

scibเสนอสินเชี่อพิเศษ 3ทางเลือกงาน"บ้านและคอนโด"


ธนาคารนครหลวงไทยนำเอ็นพีเอเด่นบนทำเลดีกว่า 2,000 รายการ มูลค่า 2,100
ล้านบาท และส่วนลดพิเศษจากราคาขายสูงสุด 25%
พร้อมข้อเสนอบริการสินเชื่อถึง 3 ทางเลือก
ทั้งแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่และลอยตัว
ให้แก่ลูกค้าภายในงาน"มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 18"

นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
ธนาคารนำบริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 3 ทางเลือก
และทรัพย์สินรอการขาย (เอ็นพีเอ)
คุณภาพดีในราคาพิเศษบนทำเลที่มีศักยภาพทั้งในเขตกรุงเทพฯ – ปริมณฑล
และต่างจังหวัด จำนวน 2,069 รายการ มูลค่า 2,135 ล้านบาท
พร้อมทั้งโปรโมชันพิเศษส่วนลดจากราคาปกติสูงสุดถึง 25%
มอบให้แก่ลูกค้าที่ใช้บริการทางการเงินของธนาคารภายในงาน
"มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 18" ระหว่างวันที่ 13-16 มีนาคม 2551 ณ
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 5 ทางเลือก ได้แก่ 1.
บริการ "สินเชื่อทวีโชค"
ซึ่งเป็นสินเชื่อสำหรับซื้อเอ็นพีเอของธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2
ปีแรก ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00% ต่อปี ปีที่ 2
อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.5% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 0.50%
ต่อปี วงเงินสินเชื่อสูงสุด 90% ระยะเวลากู้สูงสุด 20 ปี
พร้อมฟรีค่าประเมินและค่าธรรมเนียมในการจัดหาเงินกู้
และฟรีค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์เมื่อซื้อทรัพย์สินราคาพิเศษภายในงานและโอนกรรมสิทธิ์ภายใน
60 วัน อีกด้วย
2. บริการ "สินเชื่อทวีโชคแบบผ่อนชำระ"
เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจซื้อเอ็นพีเอของธนาคารแต่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อสามารถผ่อนชำระราคาทรัพย์ตามเงื่อนไขของธนาคารติดต่อกัน
36 งวด โดยไม่ผิดนัด
ธนาคารจะดำเนินการโอนค่าซื้อทรัพย์สินส่วนที่เหลือให้เป็นวงเงินสินเชื่อทวีโชคพร้อมกับโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนอง
ซึ่งเท่ากับว่าลูกค้าที่ซื้อเอ็นพีเอของธนาคารนครหลวงไทยจะได้วงเงินสินเชื่อรองรับทุกรายการ
3. บริการ "สินเชื่อเคหะนครหลวงไทย"
สำหรับโครงการที่ธนาคารเป็นผู้สนับสนุนเงินกู้ในการพัฒนาหรือโครงการที่พัฒนาโดยกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
คิดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 2 ปี ปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 2.99% ต่อปี
ปีที่สองคิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 3.99% ต่อปี
หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) ลบ 1.0%
ต่อปี หรืออัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว ปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 4.00%
ต่อปี ปีที่สองคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 3.00% ต่อปี
หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.00% ต่อปี
พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมในการกู้ และค่าธรรมเนียมในการประเมินราคา
วงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาประเมินสำหรับลูกค้าที่ยื่นขอวงเงินกู้ภายใน
30 เมษายน นี้
นอกจากนี้
ธนาคารยังให้บริการสินเชื่อเคหะสำหรับโครงการทั่วไป
โดยปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่เท่ากับ 3.99% ต่อปี
หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 0.5% ต่อปี
และพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันชีวิตพร้อมกู้สินเชื่อเคหะ
ธนาคารจะให้ส่วนลดดอกเบี้ยในปีแรกลงอีก 0.25% ต่อปี
พร้อมให้วงเงินกู้เพิ่ม เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตทั้งจำนวน
สำหรับทรัพย์เด่นที่นำมาจำหน่ายในงานนี้มีทั้งประเภทที่อยู่อาศัยและสิ่งปลูกสร้างเชิงพาณิชย์ที่เหมาะสำหรับการค้าและการลงทุน
เช่น บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาด 55.4 ตร.ว. หมู่บ้านเพอร์เฟคเพล ซ.รามคำแหง
164 เขตลาดกระบัง กทม. ราคาพิเศษ 3.8 ล้านบาท อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น
ซ.รามคำแหง 52 เขตบางกะปิ กทม. ราคาพิเศษ 3 ล้านบาท และที่ดินเปล่า
เนื้อที่ 5 ไร่ ถ.หทัยราษฎร์ มีนบุรี กทม. ราคา 31.8 ล้านบาท

วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2551

ธนาคารนครหลวงไทยตั้งเป้าสินเชื่อเคหะ 2 หมื่นล้านบาท


นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด
(มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2551
ธนาคารตั้งเป้าที่จะปล่อยสินเชื่อเคหะใหม่ประมาณ 20,000 ล้านบาท
เพื่อเร่งขยายฐานลูกค้า โดยจะเน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นไป
ธนาคารให้ความสนใจกลุ่มลูกค้าที่เป็นคอนโดมิเนียมในเมือง
และตามแนวรถไฟฟ้า
รวมถึงโครงการที่ธนาคารเป็นผู้สนับสนุนเงินกู้ในการพัฒนา (Pre Finance)
ซึ่งธนาคารมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ประกอบการอยู่แล้วและส่วนใหญ่เป็นฐานลูกค้าเก่าที่ดีของธนาคาร
พร้อมได้ปรับปรุงขั้นตอนการพิจารณาให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ธนาคารได้เสนอเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยพิเศษสินเชื่อเคหะนครหลวงไทยใหม่ 2
รูปแบบ สำหรับโครงการที่ธนาคารเป็นผู้สนับสนุนเงินกู้ในการพัฒนาหรือโครงการที่พัฒนาโดยกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
คือ แบบที่ 1 ดอกเบี้ยคงที่ 2 ปี ปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 2.99%
ต่อปี ปีที่สองคิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 3.99% ต่อปี
หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) ลบ 1.0%
ต่อปี และแบบที่ 2 ดอกเบี้ยแบบบลอยตัว ปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ
4.00% ต่อปี ปีที่สองคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 3.00% ต่อปี
หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.00% ต่อปี
พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมในการกู้ และค่าธรรมเนียมในการประเมินราคา
วงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาประเมินสำหรับลูกค้าที่ยื่นขอวงเงินกู้ภายใน
30 เมษายน นี้
นอกจากนี้
ธนาคารยังได้ยังเสนอเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยพิเศษสินเชื่อเคหะสำหรับโครงการทั่วไปหรือบ้านมือสอง
โดยปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่เท่ากับ 3.99% ต่อปี
หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 0.5% ต่อปี
นายอภิชาติ อรรฆย์ฐากูร ผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อเคหะ
กล่าวว่า ในปัจจุบันยอมรับว่าลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเริ่มให้ความสนใจและซื้อประกันชีวิตเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบแทนและช่วยแบ่งเบาภาระดังกล่าวให้ลูกค้ามากที่สุด
ธนาคารจึงจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายมอบให้กับลูกค้าสินเชื่อเคหะของธนาคารโดยเฉพาะ
ด้วยเงื่อนไขค่าเบี้ยประกันชีวิตในอัตราพิเศษ พร้อมกันนี้
ธนาคารยังเปิดให้บริการเงินกู้เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตได้ทั้งจำนวน
นอกเหนือจากเงินกู้สินเชื่อเคหะที่ธนาคารให้วงเงินสูงถึง 95% อยู่แล้ว
และสำหรับลูกค้าที่กู้สินเชื่อเคหะพร้อมทำประกันชีวิต
ธนาคารยังมอบส่วนลดดอกเบี้ยในปีแรกลงอีก 0.25%
จากทุกเงื่อนไขที่ลูกค้าได้รับ
ลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อใช้บริการได้ที่ธนาคารนครหลวงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ

ธนาคารนครหลวงไทยจัดกิจกรรม "ไหว้พระ 9 วัด"


ธนาคารจัดกิจกรรม
"ไหว้พระ 9 วัด" ทัวร์เสริมมงคลให้ชีวิต
สำหรับลูกค้าและครอบครัวที่จองและชำระผ่านบัตรเครดิตทุกประเภทของธนาคาร
พร้อมรับวัตถุมงคล "หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน" และ "ร่ม SCIB" จำนวน 1 ชุด
ต่อ 1 ท่าน การจัดกิจกรรม "ไหว้พระ 9 วัด" แบ่งเป็น 2 เส้นทาง
เดินทางโดยรถตู้ VIP ได้แก่ เส้นทางจังหวัดอยุธยา ในราคาท่านละ 359 บาท
หากเหมาทั้งคัน (จำนวน 10 ที่นั่ง) ราคาพิเศษเพียง 2,799 บาท จากราคาปกติ
3,590 บาท และเส้นทางจังหวัดเพชรบุรี ราคาท่านละ 459 บาท หากเหมาทั้งคัน
(จำนวน 10 ที่นั่ง) ราคาพิเศษเพียง 3,299 บาท จากราคาปกติ 4,590 บาท
โดยสามารถเลือกวันเข้าร่วมกิจกรรมได้คือ วันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม 2551
วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2551 และวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2551
สำหรับเส้นทางการไหว้พระ 9 วัด ในจังหวัดอยุธยา ได้แก่
วัดพระญาติการาม วัดใหญ่ชัยมงคล วัดพนัญเชิง วิหารพระมงคลบพิตร
วัดหน้าพระเมรุราชิการาม วัดธรรมิกราช วัดศาลาปูนวรวิหาร วัดตูม
และวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ส่วนเส้นทางการไหว้พระ 9 วัด ในจังหวัดเพชรบุรี
ได้แก่ วัดกุฏิ เที่ยวถ้ำเขาย้อย วัดเขาตะเครา วัดเขาบันไดอิฐ
เยี่ยมชมโบราณสถานอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง)
วัดพระพุทธไสยาสน์ วัดมหาธาตุวรวิหาร วัดใหญ่สุวรรณาราม
และตื่นตาตื่นใจกับพระราชวังบ้านปืน ทั้งนี้
นอกจากเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตนเองแล้วยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ
และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ธนาคารนครหลวงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ SCIB
Contact Center 0-2828-8000 หรือ www.scib.co.th หรือบริษัทโอเวอร์ซีส์
ออโต้ จำกัด โทร.0-2380-1010